ทนายด่าง บุกทวงไฟล์ภาพวงจรปิด เผย ราชทัณฑ์อ้างกระทบความมั่นคง ให้ไม่ได้

View icon 73
วันที่ 24 พ.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ทนายด่าง บุกทวงไฟล์ภาพวงจรปิดเหตุ บุ้ง ทะลุวัง เสียชีวิต เผย ราชทัณฑ์อ้างเหตุกระทบความมั่นคง ให้ไม่ได้ แนะร้องคกก.ข้อมูลข่าวสาร-ฟ้องศาลปกครอง

วันนี้ (24 พ.ค.67) ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อขอรับไฟล์จากกล้องวงจรปิดวันที่ น.ส.เนติพร หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” เสียชีวิต โดยใช้เวลาในโรงพยาบาลราชทัณฑ์กว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง นายกฤษฎางค์ ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากพูดคุยกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งได้ปรึกษากับผู้บริหารของกรมราชทัณฑ์จนได้ข้อสรุปว่า ไม่สามารถให้ไฟล์ภาพกล้องวงจรปิด ในช่วงเช้าวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเกิดเหตุได้

โดยกรมราชทัณฑ์ให้เหตุผลว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดมีภาพของเจ้าหน้าที่อยู่ด้วย จึงเกรงว่าจะกระทบกับเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งอ้างว่าเป็นเรื่องของความมั่นคง เพราะแม้จะเป็นโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ก็ถือเป็นเรือนจำที่อาจจะเกี่ยวกับความมั่นคง และยังอ้างว่าจะเกิดความเสียหายกับผู้เสียชีวิตด้วย เนื่องจากมีภาพขณะกำลังช่วยชีวิตอยู่ นอกจากนี้ ยังกังวลว่า หากให้ไฟล์ภาพกล้องวงจรปิดแล้ว จะนำไปเผยแพร่กับผู้สื่อข่าว ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นเหตุผลที่ไม่สมควร แต่สุดท้ายทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ยืนยันว่า ไม่สามารถให้ไฟล์ภาพกล้องวงจรปิดได้ แต่หากต้องการขอให้ไปอุทธรณ์คำสั่งร้องต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารทางราชการ หรือ ฟ้องศาลปกครอง

นายกฤษฎางค์ เห็นแย้งว่า เหตุผลทั้งหมดที่กรมราชทัณฑ์ให้นั้นฟังไม่ขึ้น ตั้งแต่การอ้างว่า มีภาพเจ้าหน้าที่อยู่ด้วย ก็สามารถเบลอหน้าหรือปกปิดได้ ส่วนที่กังวลเรื่องความมั่นคง ก่อนหน้านี้โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้เคยพาผู้สื่อข่าวเข้าไปเยี่ยมชม และออกมาเผยแพร่ ขณะที่กรณีเกรงว่า จะเกิดความเสียหายของผู้เสียชีวิตนั้น  ถือว่า เป็นความต้องการของตัวเอง และครอบครัวที่อยากจะได้ภาพ

ซึ่งตัวเองได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่า หากได้รับไฟล์ภาพกล้องวงจรปิด จะไม่เผยแพร่กับผู้สื่อข่าวต่อ เพราะที่ผ่านมา แม้จะได้เอกสารการรักษาก็ไม่เคยเผยแพร่สักครั้ง แต่ทางกรมราชทัณฑ์ก็แจ้งว่า ไม่สามารถให้ไฟล์ภาพกล้องวงจรปิดได้ แต่หากพ่อ และแม่ของบุ้ง จะขอมาดูก็สามารถทำได้ ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ ได้ทำหนังสือส่งไปให้แล้วตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. แต่จากการตรวจสอบกับพ่อ และแม่ของบุ้ง ระบุว่า ยังไม่ได้รับจดหมาย ทั้งนี้ส่วนตัวนั้นเห็นว่า การให้ดูแค่ภาพกล้องวงจรปิด แต่ไม่ให้ไฟล์ภาพกล้องวงจรปิดนั้นแตกต่างกัน เนื่องจากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถวิเคราะห์ว่า ขั้นตอนการรักษาพยาบาลที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการนั้นถูกต้องหรือไม่ ซึ่งจะให้ไปดูภาพจากกล้องแล้วไปเล่าให้แพทย์ฟัง ก็ดูไม่สมเหตุสมผล

นายกฤษฎางค์ ยังย้ำว่า การมาขอไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดครั้งนี้ ก็เพื่อตรวจสอบว่า เหตุการณ์ในกล้องวงจรปิดนั้น สอดคล้องกับเอกสารการรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์มอบให้หรือไม่ และไม่ได้คิดจะนำไปใช้เป็นหลักฐานในการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่คนไหน เพียงแต่ต้องครอบครัวต้องการทราบสาเหตุการเสียชีวิตของบุ้ง รวมทั้งเพื่อตรวจสอบว่า ระบบนั้นมีช่องว่างช่องโหว่จุดไหน จะได้นำไปสู่การแก้ไข ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำกับผู้ต้องขัง และผู้ต้องโทษคนใดได้อีก

นายกฤษฎางค์ ยังทิ้งท้ายไปถึงรัฐบาล และผู้บริหารของกระทรวงยุติธรรมว่า มั่นใจแล้วหรือว่า จะไม่ให้ไฟล์ภาพกล้องวงจรปิด ทั้งที่การดำเนินการขณะนี้ของตัวเองนั้น ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ได้ชี้แจงกับสาธารณชน