น้อง ม.1 ยอมรับกุเรื่อง พี่ม.2 สวมหน้ากาคาบูกิฟันแขน

View icon 1.0K
วันที่ 22 พ.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ไม่มีพี่ ม.2 สวมหน้ากากคาบูกิ ใช้มีดฟันแขน  น้อง ม.1 ยอมรับสารภาพ กุเรื่อง ไม่คิดว่าจะบานปลาย รอยแผลแค่ถูกกิ่งไม่เกี่ยว 

22 พ.ค.67 จากกรณีพ่อและแม่ของเด็กชายเอ อายุ 12 ปี นักเรียนโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดสระบุรี เดินทางมายัง สภ.เมืองสระบุรี เพื่อแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังลูกชายถูกรุ่นพี่ ม.2 ดักฟันหน้าห้องน้ำในโรงเรียน เป็นแผลที่แขนยาวประมาณ 4 เซนติเมตร เหตุเกิดใน รร.ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

ขณะที่ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ที่ถูกรุ่นพี่ ม.2 ดักฟัน เล่าว่ามีคนมาสะกิดตน 2 คน พอสะกิดปุ๊บก็ใช้มีดยาวประมาณ 1 ฟุตฟันเลย ได้เอาแขนกันไว้ จากนั้นรุ่นพี่ 2 คน ก็หนีไป  รู้แต่ว่าคนที่ฟันตนเป็นรุ่นพี่ ม.2 มีลักษณะตัวดำๆ คล้ำๆ ผอมๆ และสวมหน้ากาก “คาบูกิ” แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร

คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รุ่นพี่ ม.2 สวมหน้ากากคาบูกิ ดักฟันรุ่นน้อง ม.1 หน้าห้องน้ำโรงเรียน

ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี นำโดย พ.ต.ท.ภัทระ เหล่ามีผล สว.สส.สภ.เมืองสระบุรี ได้เชิญพ่อแม่ ของเด็ก ม.1 มาสอบสวนยังห้องสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี โดยผลการสอบสวน น้อง ม.1 ยอมรับว่าตนเองเป็นคนกุเรื่องขึ้นมา เพื่อเป็นการหยอกล้อเล่นกับเพื่อน ๆ ไม่คิดว่าเกิดเหตุการณ์ใหญ่โตเพียงนี้

ด้านพ.ต.ท.ภัทระ เหล่ามีผล สว.สส.สภ.เมืองสระบุรี เผยว่าจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น พบข้อพิรุธหลายอย่าง จึงได้กลับมาซักถามกับตัวน้อง ม.1 ซึ่งทางน้องก็ยอมรับว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ได้เกิดขึ้นจริง  สาเหตุเกิดจากการคุยเล่นกับเพื่อน และผู้ปกครองไปได้ยิน และเห็นบาดแผล ซึ่งน้องไปโดนอย่างอื่นบาดมา ก็เลยตกใจโพสต์ลงในเฟสบุ๊ก และก็มาแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ปรับความเข้าใจกับผู้ปกครอง เนื่องจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กว่าเหตุการณ์จะบานปลายถึงขนาดนี้

ด้านผู้ปกครอง ได้เดินทางมาถอนแจ้งความ ขอยอมรับคำผิดพลาด ที่ไม่ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วนำไปโพสต์ ทำให้สังคมเกิดความสับสน และทำให้ โรงเรียนเสียชื่อเสียง ตนเองกราบขออภัยเป็นอย่างสูง เหตุเพราะว่าตนเองก็มีความตกใจ ที่ได้เห็นบาดแผลของลูก และคิดว่าเป็นเรื่องจริงคิดว่าถูกรุมทำร้ายภายในโรงเรียน เจตนาที่โพสต์ก็เพื่อที่จะเตือน และให้ทางโรงเรียนได้ดำเนินการหาตัวคนทำผิดให้ได้ เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับลูกของตน และนักเรียนคนอื่น ๆ ตนเองมีเจตนาที่ดี

ตนเองจะทำการชี้แจงโดยละเอียดเพื่อให้สังคมได้รับทราบ  และจะทำหนังสือขออภัยไปทาง ผู้อำนวยการโรงเรียน และทางคณะครู และพร้อมที่จะยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งตนเองอยากขออภัยต่อสังคม และทางโรงเรียนด้วย

นายพูลเดช ได้กล่าวเสริมอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการคุยกันสนุก ๆ กับเพื่อน ๆ เหมือนกับว่าเขาอวดกัน เนื่องจากมีกรณีคุยกันเล่นๆว่าเป็นแผล ซึ่งแผลก็เกิดจากการที่ไปโดนไม้บาด จากนั้นก็ไปบอกเพื่อนๆว่าตนเองไปโดนฟันมา ซึ่งเป็นการคุยอวดกัน และเมื่อตนเองได้ยินเข้าก็เชื่อว่าไปโดนฟันมาจริงๆ เพราะความเป็นห่วงลูก และตกใจ และเป็นห่วงจึงลืมตัวไม่ทันได้คิดอะไร คิดว่าเป็นเรื่องจริง