เช้าข่าว 7 สี - ตำรวจจับแล้วโจรมารยาทงาม "ไหว้สวย" ก่อนชิงสร้อยทองน้ำหนัก 15 บาท ที่จังหวัดสมุทรสาคร ผู้ต้องหายอมรับขาดสติ เพราะอยากได้ทองคำไปขอแฟนสาวแต่งงาน
ย้อนดูภาพเหตุการณ์กันก่อน คนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ สวมเสื้อไรเดอร์บริษัทหนึ่ง สะพายเป้เข้ามาในร้านทอง เขาพนมมือไหว้พนักงานร้านทอง พนักงานหญิงรับไหว้ แล้วบอกให้อีกฝ่ายถอดหมวกกันน็อก-ถอดหน้ากากอนามัย ผู้ก่อเหตุส่งกระเป๋าเป้ให้ พร้อมพูดตอบทันควัน "ขออนุญาตปล้น ช่วยหยิบทองเส้นละ 3 บาท 5 บาท ใส่กระเป๋าให้ด้วยครับ ถ้าไม่อยากถูกยิง" จากนั้นก็ถกชายเสื้อขึ้น เพื่อให้พนักงานร้านทอง มองเห็นปืน 2 กระบอก ที่เหน็บอยู่บริเวณเอว
พนักงานหญิง พยายามประวิงเวลา ดึงสร้อยทองออกจากตู้โชว์ด้วยความเชื่องช้า คนร้ายเห็นท่าไม่ดี จึงย้ำบอก "ช่วยหยิบให้เร็ว ๆ ด้วย" จากนั้นก็วิ่งหลบหนีไป พร้อมสร้อยทองน้ำหนัก 3 บาท จำนวน 5 เส้น มูลค่ารวมกว่า 600,000 บาท
เหตุเกิดที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ บริเวณชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เขตอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อช่วง 12.00 น. เศษ วันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ตำรวจ สภ.โคกขาม และตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร แกะรอยคนร้ายตามคลิปกล้องติดหน้ารถคันหนึ่ง พบคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบไปตามถนนเอกชัย มุ่งหน้าถนนพระรามที่ 2 กรุงเทพมหานคร
ที่สุดก็ควบคุมตัว นายนพรัตน์ อายุ 22 ปี ผู้ก่อเหตุได้ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ใกล้ ๆ กับจุดเกิดเหตุ พร้อมของกลาง รวม 15 รายการ ประกอบด้วย ปืน 2 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่าง ๆ เกือบ 100 นัด ซองบรรจุกระสุนปืน โลหะคล้ายทอง จำนวน 5 เส้น เสื้อไรเดอร์บริษัทหนึ่ง และรถจักรยานยนต์ที่ขี่เป็นยานพาหนะ จึงคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ชายอายุ 22 ปี สารภาพเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ได้มาดูลาดเลาแล้วหนหนึ่ง เพราะต้องการนำทองไปขอสาวแต่งงาน โดยแฟนเป็นคนจังหวัดสมุทรสาคร อ้างทำโดยไม่ได้ตั้งใจ สวนทางกับพฤติการณ์ ที่มีการวางแผนตบตาเจ้าหน้าที่ อย่างการสวมเสื้อไรเดอร์บริษัทที่เคยทำงาน รวมถึงศึกษาเส้นทางหลบหนี
คุณผู้ชมคงสงสัย ทำไมก่อนชิงทองต้องยกมือไหว้ และพูดบอกพนักงานว่า "ขออนุญาตปล้น" เขาตอบเพราะบ้านผมสอนมารยาทมาดี แต่คงดีไม่พอ
ตำรวจแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ผู้อื่น โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีใบอนุญาต หรือไม่มีเหตุจำเป็น
