รวบทนายความ อดีตผู้สมัคร สส.ในเขตจังหวัดสงขลา ข่มขืนลูกความ จนเหยื่อตรอมใจกระโดดยอดเรือหลวงจักรีนฤเบศร์หวังปลิดชีพ

View icon 327
วันที่ 20 พ.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รวบทนายความ อดีตผู้สมัคร สส.ในเขตจังหวัดสงขลา ข่มขืนลูกความ จนเหยื่อตรอมใจกระโดดยอดเรือหลวงจักรีนฤเบศร์หวังปลิดชีพ แต่ทหารเห็นเหตุการณ์ช่วยได้ทัน ขณะที่หลังถูกจับ ทนายอ้าง ฝ่ายหญิงสมยอม ส่วนเรื่องฝ่ายหญิงไปกระโดดน้ำ ไม่ได้เห็นใจอะไร ขอตำรวจอย่าเข้าข้างฝ่ายหญิง

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2567  สืบนครบาลร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว ทนาย อ. อายุ 34 ปี ชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้น อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้”

พบประวัติการถูกดำเนินคดี 2 คดี ปี 2566 ถูกดำเนินคดีข้อหา “บุกรุก” พื้นที่ สภ.ทุ่งลุง จ.สงขลา และ ถูกดำเนินคดีข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้น อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” พื้นที่ สน.ดอนเมือง (คดีนี้)

พฤติการณ์ คือ หญิงสาววัย 26 ปี ตัดสินใจกระโดดลงมาจากดาดฟ้าเรือหลวงจักรีนฤเบศร์ หวังจบชีวิต แต่มีทหารผู้เห็นเหตุการณ์ช่วยได้ทันเวลา  ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 23 พ.ย. 66 หลังจากนั้น หญิงสาววัย 26 ได้เล่าเรื่องราวที่ทำให้ตัดสินใจจบชีวิต ให้กับชุดสืบนครบาลฟัง คือ ปลายปี พ.ศ. 2565 ขณะนั้น หญิงสาววัย 26 ไม่สามารถตามทวงเงินคืนจากเพื่อนได้ ซึ่งเป็นเงินกว่า 100,000 บาท หญิงสาววัย 26 จึงมองหาทนาย เพื่อให้ดำเนินคดีความทางแพ่งให้ 

ต่อมาหญิงสาววัย 26 พบกับทนาย อ. ซึ่งตกลงรับทำคดีให้ คดีความดำเนินไปถึงขั้นบังคับคดี ทนาย อ.ได้เข้าสู่เส้นทางการเมือง ด้วยการลงสมัคร สส.ในเขตจังหวัดสงขลา ในนามของพรรคการเมืองชื่อดัง ทนาย อ.ใช้โอกาสล่อลวงเธอให้มาร่วมงานประชุมและกินเลี้ยงของพรรคที่กรุงเทพฯ อ้างจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องคดีความกับเธอ เธอจึงขับรถมาถึงย่านดอนเมือง เมื่อเธอมาถึงโรงแรมกลับเป็นโรงแรมเล็กๆไม่มีห้องประชุมใดๆ แต่ทนาย อ. ออกอุบายให้เธอขนของขึ้นไปเก็บบนห้องก่อน แล้วจะเดินทางไปคุยงานด้วยกันที่อื่น เมื่อเธอเดินเข้าไปภายในห้องพักเพื่อเก็บของ ทนาย อ.ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน โดยมีการทำร้ายร่างกายเธอ ทั้งผลักและจับบีบคอ กดลงกับเตียง ก่อนจะลงมือข่มขืน ซ้ำยังข่มขู่ โดยทนายบอกว่า “หนีไปบอกใครก็ไม่มีใครเชื่อหรอก เดินเข้ามาในห้องเองแบบนี้คือการสมยอม” ก่อนจะลงมือข่มขืนจนผู้เสียหายสลบไปอีกครั้ง 

หลังเหตุการณ์ในคืนนั้น ทนาย อ.จะโทรศัพท์มาหา เพื่อเช็กว่าผู้เสียหายจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง และส่งข้อความข่มขู่สารพัด และยังใช้เรื่องการทำคดีแพ่งให้ มากดดันให้กลับไปหาอีก จนหญิงวัย 26 จนตรอก และต้องจมอยู่กับความอึดอัดคับแค้นใจนี้กว่าหลายวัน ก่อนตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง แจ้งความทนาย อ.ในข้อหา “ข่มขืนฯ”

แต่หลังจากนั้น เหตุการณ์ก็เริ่มบานปลาย เพราะทนาย อ.พยายามส่งข้อความมาหาผู้เสียหาย ทำทีว่าจะรับผิดชอบ โดยหลอกให้ผู้เสียหายพิมพ์จำนวนเงิน ผ่านแช็ตไลน์อยู่ 4-5 ครั้ง จนกระทั่งผู้เสียหายหลงกล ทนาย อ.แค็ปหน้าจอไว้ แล้วใช้เป็นหลักฐานไปแจ้งความกลับเธอในข้อหา “กรรโชกทรัพย์” พร้อมทั้งส่งข้อความข่มขู่ด้วยถ้อยคำรุนแรง เช่น

“กูจะทำให้ดู นรกเป็นยังไง”, “มึงอีห่า กูจะใช้กฎหมายกับมึง กูจะใช้ทุกอย่างให้มึงติดคุก”

หลังจากนั้น ผู้เสียหายได้รับหมายศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง หลังทนาย อ.ฟ้องเธอในข้อหา “แจ้งความเท็จ” และเรียกค่าเสียหาย 300,000 บาท ผู้เสียหายทั้งกลัวทั้งสิ้นหวัง จึงตัดสินใจ ไปจบชีวิตด้วยการกระโดดจากเรือหลวงจักรีนฤเบศร์

ขณะที่ ล่าสุด ตำรวจออกหมายจับ ทนาย อ.แล้ว ชุดสืบนครบาลจึงไล่ล่าติดตามจับกุมตัวทันที กระทั่งวันที่ 19 พ.ค. 67 ชุดสืบนครบาลก็สามารถไปจับกุมตัวทนายดังรายนี้ได้ที่ จ.สงขลา ในชั้นจับกุม ทนาย อ. ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “มันเป็นการสมยอมของทั้งสองฝ่าย คดีนี้ผมชนะอยู่แล้ว ถ้าผมแพ้ผมก็คงเลิกเป็นทนายความ แล้วตอนนี้ตนเองได้ฟ้องกลับฝ่ายหญิงแล้ว ข้อหา กรรโชกทรัพย์ และแจ้งความเท็จ และตนเองก็ได้ร้องไปที่ ปปช. ด้วยถึงการทำงานของพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ยืนยันว่าที่ฟ้องกลับเหล่านี้ไม่ได้เป็นการแก้เกลี้ยว ส่วนเรื่องที่ฝ่ายหญิงไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตายตนเองไม่ทราบ และไม่ได้เห็นใจอะไร ขออย่าไปเข้าข้างฝ่ายหญิง ให้ดูข้อเท็จจริงด้วย คนสองคนเดินเข้าห้องไปด้วยกันมันสมยอมอยู่แล้ว”

หลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
       
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า “คดีนี้พยานหลักฐานชั้นพนักงานสอบสวนเพียงพอ ให้ศาลอนุมัติการออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ แล้วการที่ผู้หญิงคนหนึ่งเลือกจบชีวิตตัวเองเช่นนี้บ่งบอกได้ถึงการถูกกดดัน ข่มเหงรังแกอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหนเราอยู่ภายใต้กฏหมายเดียวกัน กฎหมายมีไว้เพื่อปกป้องมิใช่เอาไว้รังแกคน หลังจากนี้จะมีการขยายผลโดยละเอียด ซึ่งทราบมาล่าสุดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนในพื้นที่ จ.สงขลา แจ้งว่าได้ถูกผู้ต้องหาที่เป็นทนายรายนี้ร้องเรียนและแจ้งความอีกเป็นจำนวนหลายนาย จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากผู้ใดมีเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีนี้ โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ สืบนครบาล“