ผช.ผู้ใหญ่บ้านขอความเป็นธรรม ถูกปลัดกลั่นแกล้งว่าเสพยา

View icon 135
วันที่ 13 พ.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อ้างถูกปลัดอำเภอ ตรวจว่าพบสารเสพติดในปัสสาวะ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงเชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งจากปลัดอำเภอ เพื่อหวังดิสเครดิตสามีของเธอ ที่เป็นสมาชิก อบต. และกำลังจะลงเลือกตั้งในสมัยหน้า

นางหนูจันทร์ สุวรรณนา อายุ 54 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และนายคำภู สวรรณนา อายุ 53 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล เดินทางมาจากมหาสารคาม ร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วย หลังถูกชาวบ้านประณามว่าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด

นางหนูจันทร์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ทางอำเภอพยัคฆ์ภูมิพิสัย มีการเรียกผู้ใหญ่บ้าน พร้อมผู้ช่วยและกำนันเข้าอบรม พร้อมตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 33 คน โดยไม่มีตำรวจเข้าร่วมตรวจด้วย แต่ปลัดให้สมาชิก ปัสสาวะใส่กระบอกที่มีชื่อตัวเอง จากนั้นปลัดประกาศว่าพบสารเสพติดในปัสสาวะของตน จนสร้างความอับอายเป็นอย่างมาก

ตอนนั้นยืนยันว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด และขอให้ตรวจใหม่อีกครั้ง แต่ทางปลัดได้ขับรถนำปัสสาวะของตนไปตรวจที่โรงพยาบาล และไม่ให้ตนเดินทางไปด้วย

ผลตรวจออกมาว่า พบสารเสพติดในปัสสาวะเหมือนเดิม ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะทั้งตระกูลของตนเองไม่มีใครยุ่งเกี่ยวสารเสพติด จากนั้นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ได้เดินทางไปตรวจปัสสาวะด้วยตัวเองที่โรงพยาบาลเดียวกัน และหมอคนเดียวกับที่ปลัดนำไปตรวจ แต่ครั้งนี้ไม่พบสารเสพติด จึงนำผลตรวจไปยืนยันกับท่านปลัด แต่คู่กรณีไม่เชื่อ จนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ปลัดให้มาเซ็นลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แต่ตนไม่ยอมเซ็น

ก่อนยื่นหนังสือถึงนายอำเภอ ขอให้นำเส้นผมไปตรวจหาสารเสพติด ที่นิติวิทยาศาสตร์ในกรุงเทพฯ โดยนำเส้นผมไปส่งตรวจด้วยตัวเอง ในวันที่ 19 มีนาคม และวันที่ 26 มีนาคม มีหนังสือยืนยันว่าไม่พบสารเสพติดในร่างกายตนเอง ย้อนหลังไปในช่วง 9 เดือน

ส่วนตัวเป็น อสม. มา 20 ปี ช่วยเหลือคนมาตลอด และยังเคยได้รับตำแหน่ง "แม่ดีเด่น" ไม่เคยข้องเกี่ยวสิ่งผิดกฎหมาย เชื่อว่าน่าจะถูกกลั่นแกล้ง ชนวนเหตุมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่น เพราะสามีตนเป็นสมาชิก อบต. และการเลือกตั้งสมัยหน้า สามีจะลงสมัครในตำแหน่งผู้บริหาร ฉะนั้นอาจมีการดิสเครดิต ทำให้ครอบครัวตนเองหมดความน่าเชื่อถือหรือไม่

ล่าสุด ทางอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย ทำหนังสือชี้แจงไปถึงผู้ว่าฯ ว่าการตรวจหาสารเสพติดในครั้งนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นคนตรวจหาสารเสพติด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง