ผกก.หลักสอง แจงปมไม่อายัดนาฬิกาหรู ของกลาง หลังจับมิจฉาชีพ ชี้ ร้านค้าไม่ผิดรับของโจร

View icon 233
วันที่ 11 พ.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หนุ่มร้องถูกมิจฉาชีพหลอกซื้อนาฬิกาหรูราคาเกือบ 4 แสนบาท จับคนร้ายได้ แต่นาฬิกาไม่ได้คืน เพราะตำรวจไม่อายัดของกลาง ด้านผกก.หลักสอง แจงร้านค้าไม่ผิดรับของโจร อายัดนาฬิกาไม่ได้ แนะผู้เสียหายซื้อคืนด้วยวิธีแพ่ง ส่วนทางคดีเตรียมออกหมายเรียกผู้ร่วมขบวนการเพิ่ม

วันนี้ (11 พ.ค.67) ที่สำนักงานสายไหมต้องรอด นายสมภพ อายุ 43 ปี เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และในฐานะที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย ภายหลังถูกมิจฉาชีพหลอกซื้อนาฬิกาหรู ทำทีให้ส่งสินค้าทางไปรษณีย์ และออกอุบายให้ส่งเลขพัสดุมาให้ดูก่อน เพื่อจะทำการโอนเงิน แต่ระหว่างนั่งรอลูกค้าโอนเงิน สุดท้ายมิจฉาชีพแอบเข้าไปที่ร้านขอรับของ โดยที่ไม่ยอมโอนเงินให้

นายสมภพ เล่าให้ฟังว่า ช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้โพสต์ขายนาฬิกายี่ห้อหรู ต่อมาเดือนเม.ย. มิจฉาชีพได้โทรศัพท์มาหา แสดงตัวว่าสนใจอยากจะซื้อนาฬิกาในราคาประมาณ 400,000 กว่าบาท จากนั้นได้ขอให้ผู้เสียหายไปใช้บริการขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง โดยมีจุดหมายปลายทางให้ไปส่งที่จังหวัดนครศรีธรรมราช อ้างว่าพื้นที่นี้ถ้าใช้ขนส่งเจ้านี้จะสะดวกมากกว่า ผู้เสียหายก็ไม่ได้เอะใจอะไร ต่อมามิจฉาชีพได้ให้ผู้เสียหายส่งหมายเลขพัสดุส่งมา พร้อมกับขอให้ผู้เสียหายเดินออกมาจากบริษัทขนส่ง จากนั้นก็ได้วิดีโอคอลเพื่อตรวจสอบว่าผู้เสียหายได้ออกมาจากขนส่งแล้ว ซึ่งผู้เสียหายก็นั่งรออยู่นาน แต่ก็ยังไม่พบว่ามีเงินโอนเข้ามาในบัญชี ผู้เสียหายจึงได้ไปสอบถามกับพนักงานขนส่งก็ได้ข้อมูลมาว่า มีไรเดอร์มาติดต่อให้ยกเลิกขนส่ง และอ้างว่าลูกค้าจะให้ไรเดอร์เป็นคนไปส่งเอง พนักงานจึงมอบพัสดุให้ไรเดอร์ไป ทำให้ผู้เสียหายแปลกใจว่าทำไมพนักงานถึงทำแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่ใบเสร็จอยู่ที่ตน

จากนั้นจึงไปแจ้งความไว้ที่ สน.หลักสอง ซึ่งล่าสุดเมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ท่าข้าม สามารถจับคนร้ายได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการอายัดตัวในแต่ละท้องที่ แต่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้อายัดนาฬิกาของตนไว้เป็นของกลาง ซึ่งตนทราบมาว่า มิจฉาชีพได้ขายให้ร้านค้าแห่งหนึ่งไปแล้ว จึงไปสอบถามที่ร้านค้า โดยร้านค้าบอกว่า ให้นำเงินมาจ่ายไถ่ของคืนไป

ด้าน นายเอกภพ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะประสานไปยังตำรวจ สน.หลักสอง เพื่อให้ติดตามนาฬิกาของผู้เสียหาย รวมทั้งให้ตรวจสอบไรเดอร์และพนักงานของบริษัทขนส่งว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการหรือไม่

ขณะที่ทาง พ.ต.อ.ไตรเทพ แพทย์รัตน์ ผกก.สน.หลักสอง เปิดเผยว่า สาเหตุที่ไม่มีการดำเนินการอายัดนาฬิกาเรือนดังกล่าว เพราะร้านรับซื้อนาฬิกาโดยที่ไม่ทราบว่าเป็นของผิดกฎหมาย ดังนั้น ร้านนาฬิกาจึงไม่มีความผิดฐานรับของโจรและเป็นผู้ครอบครองโดยสุจริต เช่นเดียวกับผู้ที่ซื้อนาฬิกาต่อจากร้านนาฬิกา ก็ถือว่าเป็นผู้ครอบครองโดยสุจริตเช่นกัน ทางพนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจที่จะไปอายัดนาฬิกาดังกล่าวได้ แต่ก่อนหน้านี้ ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งให้ทางร้านนาฬิกานำนาฬิกาเรือนดังกล่าวมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนแล้ว หลังจากนี้จะให้ทางร้านนาฬิกาเข้ามาชี้แจงว่า เพราะเหตุใดถึงไม่นำนาฬิกามาส่งมอบแก่ตำรวจ

ส่วนผู้เสียหาย หากต้องการนาฬิกาคืนนั้น ให้ดำเนินการซื้อคืนจากผู้ที่ซื้อและครอบครองโดยสุจริตด้วยวิธีทางแพ่ง ทางพนักงานสอบสวนมีอำนาจเฉพาะในทางคดีอาญาเท่านั้น

ในส่วนความคืบหน้าของคดีอาญา ขณะนี้เตรียมที่จะออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม เพราะพบว่าขบวนการนี้มีลักษณะของการก่อเหตุหลายครั้งในหลายพื้นที่ ส่วนพนักงานของบริษัทขนส่งนั้น จากการสอบปากคำเบื้องต้น อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว แต่ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อ จะต้องมีการสอบปากคำพนักงานของบริษัทขนส่งอย่างละเอียดอีกครั้ง