ข่าวภาคค่ำ - คณะรัฐมนตรี ไฟเขียวทุ่มงบประมาณ 8,300 ล้านบาท คลอดมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน ทั้งเรื่องของราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร ตรึงค่าก๊าซหุงต้ม และลดค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง
เป็นมาตรการแรกหลังมีการปรับคณะรัฐมนตรี ของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็น 3 รายการหลักเกี่ยวกับด้านพลังงาน เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยคาดทั้ง 3 มาตรการ จะใช้งบประมาณ 8,300 ล้านบาท
มีทั้งลดค่าไฟฟ้าให้อยู่ที่ 19.05 สตางค์ต่อหน่วยไฟฟ้า ให้กับกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน เริ่มรอบบิลเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม
ส่วนน้ำมันดีเซลที่สิ้นสุดมาตรการตรึงราคาไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ครั้งนี้คณะรัฐมนตรีขยับเพดานตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้
รวมถึงตรึงราคาขายปลีก LPG ที่ระดับ 423 บาทต่อถึงขนาด 15 กิโลกรัม ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้
สำหรับเงินอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล นายกรัฐมนตรี สั่งให้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก่อน ที่เหลือให้ขอรับจัดสรรจากงบกลาง ปี 2567 ต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลเศรษฐา ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาท ตั้งแต่ประชุม ครม.นัดแรก เดือนกันยายนปีที่แล้ว และสิ้นสุดมาตรการเมื่อ 30 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้ราคาขยับขึ้น 1 บาท ทันที
ซึ่งการกำหนดให้ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร เท่ากับเปิดเพดานขึ้นได้อีก 2 บาท โดยน้ำมันดีเซลที่ขึ้นทุก ๆ 1 บาท จะกระทบต่อต้นทุนของสินค้าถึง 3%
ด้าน นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย บอกกับช่อง 7HD ว่า ต้องเร่งหาทางออกเรื่องราคาน้ำมันโดยด่วน เพราะน้ำมันดีเซลจำเป็นต่อภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบ และเป็นต้นทุนสำคัญที่ส่งผลต่อราคาสินค้าทันที ซึ่งกระทบกับประชาชนแน่นอน
อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ ปตท. และ บางจาก ปรับลดราคาน้ำมันในกลุ่มแก๊สโซฮอล์ 50 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่น้ำมันดีเซลคงเดิม
