ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มพาภรรยาชาวอังกฤษ ร้องทนายดัง หลังถูก รปภ.คอนโดหรูแห่งหนึ่ง ต่อยจนกระดูกแตก เหตุเพราะไม่พอใจที่ไปปลุกให้ช่วยตามหาสามี ไปดูภาพวงจรปิดกันก่อน
วงจรปิดบันทึกภาพ หญิงต่างชาติคนหนึ่ง เดินลงมาด้านล่างของคอนโดหรู ย่านยานนาวา กรุงเทพฯ ก่อนทำการเรียก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตึก ที่กำลังเอนหลังอยู่บนเก้าอี้ คล้ายนอนหลับอยู่ จากนั้นหญิงชาวต่างชาติ พยายามร้องขอความช่วยเหลือ แต่เหมือนทั้งคู่จะพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง จนฝ่ายหญิงคล้ายมีอารมณ์ หากสังเกตในวงจรปิด จะเห็นวินาทีที่เธอ ทุบโต๊ะ และมีจังหวะหนึ่ง ยืนมือไป คล้ายจะตบหน้าของ รปภ.จนหน้าหันมาทางขวา แต่ รปภ.ไม่ได้ตอบโต้กลับ
จากนั้นทั้งคู่เดินออกมาด้านนอก ดูเหมือนว่าจะพูดคุยกันรู้เรื่องแล้ว แต่ไม่ใช่ เพราะทันทีที่ฝ่ายหญิงผลักหลัง และตบไปที่ใบหน้าของเจ้าหน้าที่ รปภ.อีกครั้ง คาดว่า ฝ่าย รปภ.คงบันดาลโทสะ ก่อนง้างมือ และต่อยไปที่ใบหน้าของหญิงต่างชาติ จนล้มลงไปนอนกองกับพื้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลางดึกของวันที่ 12 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
ส่วนที่เรานำคลิปนี้มาเปิดเผย เพราะนายบุญเอก วงศ์สุริยะวัฒนา อายุ 46 ปี นำหลักฐานตัวนี้มาร้องมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เนื่องจาก หลังเกิดเหตุ ภรรยาของเขา อายุ 35 ปี สัญชาติอังกฤกษ บาดเจ็บ ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ กระดูกแตก และปีกจมูกหดเข้าไปอัตโนมัติ
พร้อมเล่าว่า วันเกิดเหตุ ภรรยาได้ไปปลุก นายโมฮำหมัด อายุ 28 ปี รปภ.คนดังกล่าว เนื่องจากต้องการจะสอบถามว่า เห็นสามีไหม เพราะรถยนต์ไม่ได้จอด แต่ รปภ.เกิดหลับ ภรรยาจึงโมโหเป็นอย่างมาก นำโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิป เพื่อจะไปฟ้องหัวหน้า
จากนั้นภรรยาได้เดินออกไปนอกตึก เพื่อตามหารถยนต์ แต่ รปภ. เดินตามมา ทางภรรยา จึงกลัว ก่อนไล่ให้กลับไป แต่ รปภ.ไม่พอใจ มีปากเสียงกัน ก่อนอาศัยจังหวะที่ภรรยาเดินมาหน้าตึก ต่อยจนเต็มแรง จนร่วงไปกับพื้น หลังเกิดเหตุ รปภ. พยายามหลบหนี ภรรยากลั้นใจลุกขึ้น และวิ่งตามไป แต่ไม่ทัน
หลังเกิดเหตุแจ้งความ ก่อนที่ตำรวจ สน.โพงพาง ได้ออกหมายจับหนุ่ม รปภ. ในข้อหา กระทำความผิดต่อร่างกาย แต่ผลปรากฏว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ จนถึงตอนนี้ยังจับตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ และเพิ่งมาทราบภายหลังว่า ตอน รปภ. ก่อเหตุ ไม่มีใบอนุญาตอบรมหลักสูตร
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้จิตใจของภรรยาย่ำแย่อย่างมาก ไม่สามารถกลับมาพักอาศัยที่คอนโดได้เลย ต้องไปหาที่อยู่ใหม่ หนักสุดคือ ทางร่างกาย จนต้องไปหาหมอจิตเวช ส่วนทางนิติบุคคล เบื้องต้น ได้เข้ามาขอโทษแล้ว พร้อมมอบกระเช้า แต่มองว่า ต้องการความรับผิดชอบมากกว่านี้
ด้านหญิงต่างชาติ กล่าว่า ไม่รู้ว่าทำไม รปภ. ถึงมาทำร้ายตนเองแบบนี้ อีกทั้ง ถ้าเรื่องนี้ เกิดขึ้นในประเทศของเธอเอง ต้องไปสู่ ขั้นตอนกระบวนการกฎหมายและต้องติดคุก อย่างแน่นอน
ด้าน นายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า กรณีนี้ รปภ.ไปทำร้ายผู้เสียหาย ถือว่าเป็นการละเมิดตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 ถ้าลูกจ้างไปทำละเมิดในการงาน นายจ้างต้องร่วมรับผิดชอบด้วย จะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ หลังจากนี้จะทำการสืบสวนก่อนเตรียมดำเนินคดีต่อไป
