ปฏิบัติการล้างบางขบวนการหลอกลงทุนคริปโทฯ

View icon 192
วันที่ 23 เม.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ปฏิบัติการ “BLACK HAT” ล่าล้างขบวนการหลอกลงทุนคริปโทฯ ตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 125 ล้าน เตรียมเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย

วันที่ 23 เม.ย.67 พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., ตำรวจ สอท.2 ร่วมกับ นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมายและโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวปฏิบัติการ BLACK HAT ล่าล้างขบวนการหลอกลงทุนคริปโทฯ ตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 125 ล้าน เพื่อเตรียมเฉลี่ยคืนแก่ผู้เสียหาย

สืบเนื่องจาก เมื่อปี 2566 ตำรวจไซเบอร์ได้รับแจ้งความจากกลุ่มผู้เสียหาย 5 คน ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงให้ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Cryptocurrency หลอกผู้เสียหายลงทุน สร้างความเสียหายมากกว่า 530 ล้านบาท ต่อมาทลาย 2 เว็บพนันออนไลน์ เครือข่าย ufabet-jc และ play.beer777 พบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 13,000 ล้านบาทต่อปี จึงมีการขยายผล วิเคราะห์เส้นทางการเงิน มีความเชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินในคดีเว็บพนันออนไลน์ พบว่าเงินที่ถูกหลอกลวงจากการการลงทุนคริปโทฯ ได้ถูกนำมาผ่านกระบวนการฟอกเงิน 

สืบสวนพบหลักฐานว่า นายกัญจน์นิพิฐ ผู้ต้องหาในคดีเว็บพนันออนไลน์ เป็นผู้จัดการทางการเงินให้แก่กลุ่มอาชญากรข้ามชาติต่าง ๆ ที่มีความเชื่อมโยง จากการฟอกเงิน ทำให้ตำรวจเชื่อว่า ทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้มาจากการหลอกลงทุนทรัพย์สินดิจิทัล โดยผ่านกระบวนการฟอกเงินที่สลับซับซ้อนด้วยวิธีการใช้โพยก๊วนสมัยใหม่ เพื่อแปลงสภาพทรัพย์สินที่ ได้มาจากการกระทำความผิด

นำมาสู่ปฏิบัติการ BLACK HAT ล่าล้างขบวนการหลอกลงทุนคริปโทฯ โดยตำรวจไซเบอร์ได้รายงานข้อมูลไปยังสำนักงาน ปปง. และต่อมาสำนักงาน ปปง. ได้มีคำสั่งที่ ย.93/2567 ลงวันที่ 22 เม.ย.67 เพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง กับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวที่ เจ้าหน้าที่จึงยึดเงินสดกว่า 117 ล้านบาท พร้อมทั้งรถยนต์ Porsche มูลค่า 8 ล้านบาท รวมทรัพย์สินทั้งสิ้น มูลค่ากว่า 125 ล้านบาท เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและนำมาเฉลี่ยทรัพย์คืนให้แก่ผู้เสียหายต่อไป

นอกจากนี้ยังสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายได้จำนวนมาก และได้ระดมกำลังตำรวจไซเบอร์ทั่วประเทศติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จับกุมได้ 23 คน ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน” นำส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย