"จุลพันธ์" ยืนยันไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. มาใช้ทำดิจิทัลวอลเล็ต

View icon 96
วันที่ 23 เม.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
"จุลพันธ์" ยืนยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. มาใช้ทำดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นการใช้กลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส. ขาดสภาพคล่อง ลั่นอย่าลืมรัฐถือหุ้น 100 %  ส่วนการพัฒนาซูเปอร์แอปฯ ใช้งบประมาณไม่เยอะ ไม่ถึงพันล้าน แต่ เป๋าตัง ยังคงเป็นตัวเลือก

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีสหภาพธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เข้าพบที่กระทรวงการคลังวานนี้ (22 เม.ย.67) เพื่อชี้แจงกรณีที่จะนำเงินของ ธ.ก.ส.ไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ใน 5 ประเด็น ซึ่งได้นั่งพูดคุยกันและชี้แจงเรียบร้อยดี ยืนยันว่าไม่มีปัญหา พวกเขาต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฏหมาย โดยทางคณะกรรมการฯ และกระทรวงการคลัง ก็ได้ตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่าทุกอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องการความมั่นใจ ว่ามีขั้นตอนทางกฏหมายอะไรที่รัฐบาลต้องทำ เช่น ส่งให้ทางสำนักคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจสอบ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้กำหนดระยะเวลาให้ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบหรือไม่  นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะทุกอย่างมีระยะเวลาของมัน แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีความกังวล เพราะรัฐบาลมั่นใจ ว่าทุกอย่างทำตามกรอบกฏหมายชัดเจน

นายจุลพันธ์ ยืนยันถึง 5 ข้อสงสัยของสหภาพแรงงาน ธ.ก.ส. ว่า สามารถชี้แจงได้หมด รวมถึงแหล่งที่มาของเงิน ส่วนเรื่องของสภาพคล่องไม่น่าเป็นห่วง สามารถบริหารจัดการได้โดยกลไกปกติ ผ่านการบริหารจัดการของธนาคาร ส่วนการชำระเงินคืนก็เป็นไปตามกลไกของงบประมาณ ที่รัฐบาลจะต้องมีกลไกในการชำระคืน ตามมาตรา 28 ให้กับ ธ.ก.ส.ในแต่ละปี พร้อมยืนยันว่า ส่วนตัวไม่กลัวว่าจะเกิดแรงกระเพื่อม เพราะได้พูดคุยให้เข้าใจตรงกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้รัฐบาลเป็นหนี้ ธ.ก.ส.อยู่ประมาณประมาณเท่าไหร่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ประมาณ 8-9 แสนล้านบาท ยืนยันว่าครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการกู้เงินของ ธ.ก.ส. มาทำนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นการใช้กลไกผ่านงบประมาณ และมาตรการการเงินการคลัง เพราะรัฐบาลกู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ได้ ทั้งนี้ตนได้ยืนยันไปทางสหภาพแรงงาน ธ.ก.ส. ใน 3 ประเด็นคือ กลไกทั้งหมดต้องเป็นไปตามกฏหมาย และเสถียรภาพของธนาคาร ธ.ก.ส. จะต้องแข็งแกร่ง อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายที่จะเพิ่มในเรื่องความแข็งแกร่งให้กับ ธ.ก.ส. และ ที่สำคัญรัฐบาลถือหุ้น 100% ไม่มีทางที่จะรัฐบาลจะปล่อยให้กลไกนี้สั่นไหว

เมื่อถามว่าเกษตรกรสงสัยว่าทำไม ถึงไม่ให้ใช้เงินในโครงการไปชำระหนี้เลย นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า ไม่สามารถชำระหนี้ได้ เพราะเป็นสิ่งที่รัฐบาลยืนยันมาตั้งแต่ต้น หากนำเงินไปใช้หนี้คืนให้กับ ธ.ก.ส. ก็หมายความว่า เงินดังกล่าวจะกลับเข้ารัฐ ไม่เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวถามถึงระบบบล็อกเชน จะเข้ากับแอปพลิเคชันของรัฐได้อย่างไร เพราะไม่ได้เอื้อต่อธุรกรรมทางการเงิน นายจุลพันธ์กล่าวว่า ขณะนี้กำลังพัฒนาและดำเนินการอยู่ ส่วนเรื่องแอปฯ ทางรัฐได้มีการพูดคุยมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันที่คาดหวังว่า จะสามารถอัปเกรดเป็นซูเปอร์แอปฯ ได้ ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล จะเป็นผู้รับผิดชอบ และดำเนินการพัฒนาระบบ เพื่อให้เชื่อมโยงความเป็นรัฐทั้งหมดเข้ามาอยู่ในแอปฯ เดียวกัน เพื่อไปเป็นจุดเชื่อมในอนาคต เช่น ลูกค้าของธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นธนาคารของอะไร จะสามารถมาเชื่อมกับระบบของรัฐ และสามารถเข้าสู่ระบบดิจิทัลวอลเล็ตได้ ยืนยันว่าการไปพัฒนาเรื่องนี้นั้นใช้งบประมาณไม่เยอะ ไม่ถึงพันล้านบาท และจะสามารถใช้ทันในไตรมาสที่ 4 ส่วนแอปฯเป๋าตังก็ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือก ที่รัฐบาลก็กำลังดูอยู่