ดีใจกับครอบครัว หนูน้อยชาวลาวอายุ 1 ขวบ 1 เดือน เป็นโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด ส่งตัวข้ามโขงมาที่ จ.หนองคาย ก่อนส่งต่อมาผ่าตัดหัวใจที่ รพ.จุฬาฯ รักษาหาย พรุ่งนี้เดินทางกลับหลวงพระบาง ความสำเร็จในโครงการรักษ์หัวใจเด็ก (น้อย) ข้ามโขง
ผลการรักษาหนูน้อยชาวลาวป่วยโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด วันนี้ (17 เม.ย.67) โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์ หน่วยศัลยศาสตร์ทรวงอกและหัวใจ ศูนย์กู้ชีพ ฝ่ายเวชศาสตร์ฉุกเฉิน พร้อมด้วยทีมแพทย์ พยาบาล ร่วมแถลงข่าวถึงภารกิจสำคัญในความร่วมมือ โครงการ “รักษ์หัวใจเด็ก (น้อย) ข้ามโขง” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก, มูลนิธิเกื้อฝันเด็ก และ สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สปป. ลาว และโรงพยาบาลมะโหสด
โครงการ “รักษ์หัวใจเด็ก (น้อย) ข้ามโขง” เริ่มหารือครั้งแรกกับฝ่ายลาวเมื่อวันที่ 18 พ.ค.66 ทีมแพทย์ออกหน่วยตรวจคัดกรองผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เมื่อวันที่ 13 ต.ค.66 คัดกรองผู้ป่วยเด็ก จำนวน 92 คน ซึ่งในจำนวนนี้ มี 37 คน ที่มีความจำเป็นต้องนำไปผ่าตัดรักษาที่ประเทศไทย โดยมี 3 คน จำเป็นต้องนำไปผ่าตัดโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ส่วนคณะแพทย์ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และทีมงาน Global Health ได้หารือกับคณะแพทย์ของโรงพยาบาลมะโหสดเรื่องแนวทางความร่วมมือและการสนับสนุนเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ของ สปป.ลาว ให้สามารถผ่าตัดหัวใจเด็กได้ภายใน 5 ปี ในเบื้องต้น คณะแพทย์ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทยเห็นว่า ควรสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรของหอผู้ป่วยวิกฤตเด็ก และพิจารณาเรื่องการให้ทุนแก่บุคลากรเพื่อเพิ่มพูนทักษะสำหรับการดูแลผู้ป่วยเด็กและทุนการศึกษาสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อไปอย่างเต็มกำลังจากทุกหน่วยงานข้างต้น
สรุปผลการดำเนินงานถึงปัจจุบัน ผู้ป่วยที่เข้าคิวผ่าตัดจำนวน 37 คน (เสียชีวิตระหว่างรอผ่าตัด 2 คน) ผ่าตัดแล้วที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 2 คน ผ่าตัดแล้วที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น 27 คน อัตราการรอดชีวิต 100% รอผ่าตัดอีก 11 คน
ผู้ป่วยเด็กรายล่าสุดขณะนี้อายุ 1 ปี 1 เดือน พร้อมที่จะเดินทางกลับในวันที่ 18 เมษายน 2567 โดยจะเดินทางกลับไปที่นครหลวงพระบาง ซึ่งขณะผู้ป่วยอาการคงที่ และสามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้และน่าจะมีความปลอดภัยสูงสุด จึงจะเดินทางพร้อมทีมแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยได้รับการสนับสนุนจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส
เคสนี้ ระหว่างการเดินทางเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเด็กด้วยรถพยาบาลฉุกเฉิน จากจังหวัดหนองคายมายัง รพ.จุฬาฯ กรุงเทพฯ ตลอดเส้นทางได้รับความร่วมมือจากผู้ใช้ถนนร่วมทาง ที่เปิดทางให้ขบวนรถพยาบาลฉุกเฉินเดินทางได้อย่างสะดวก
