เมียหลวงสุดช้ำ! หลังสามีทิ้งลูก-เมีย ไปคบสาวลาว ดาวติ๊กต็อก จับได้ตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว ล่าสุด วันนี้มีหมายศาลว่า สามีฟ้องหย่า ตัดสินใจถือทะเบียนสมรส เดินหน้าขอความช่วยเหลือ ยืนยัน ไม่หย่าเด็ดขาด
จากกรณีนางสุภาภรณ์ อายุ 49 ปี อาชีพแม่บ้าน นำเอกสารหลักฐาน ร้องขอความเป็นธรรมกับ ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) จังหวัดนนทบุรี ว่าถูกสามี คือ นายศิระ อายุ 43 ปี ที่อยู่กินกันมากกว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 2544 มีลูกด้วยกัน 2 คน แอบมีชู้เป็นสาว สปป.ลาว ดาวติ๊กต็อก ผู้ติดตามเกือบ 2 ล้าน
นางสุภาภรณ์ เผยว่า จับได้ว่าสามีมีชู้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 จึงขอเคลียร์ แต่ชู้ไม่ยอมเลิก สามีไม่พอใจจึงเก็บกระเป๋าออกจากบ้าน โดยมีแม่สามี อายุ 74 ปี คอยสนับสนุน ยุยงส่งเสริมให้ทิ้งครอบครัวไปอยู่กับชู้อย่างเปิดเผย หลังจากนั้นก็มีปัญหาครอบครัวมาตลอด จนเกิดการทะเลาะวิวาทอย่างหนัก มีการทำลายโทรศัพท์มือถือ และทำร้ายร่างกายนางสุภาภรณ์จนได้รับบาดเจ็บ เข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด ตั้งแต่ 30 ม.ค. 2563 แต่คดีไม่มีความคืบหน้า มิหนำซ้ำยังถูกสามีฟ้องหย่า จนนางสุภาภรณ์ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า วันนี้จึงเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมให้ ดร.แก้ว ช่วยเหลือ ดังนี้
1.ต้องการทนายแย้งเรื่องที่โดนฟ้องหย่า
2.คดีทำร้ายร่างกายไม่มีความคืบหน้า
3.ดำเนินคดีเรื่องหมู่บ้าน
ขณะที่ ตนเองชวนลูกสาวไปหาสามีที่บ้าน แต่สวนทางกัน ทำให้ตนเองเจอแม่สามีที่อยู่ในบ้าน จากนั้นตนพยายามเดินหารอบบ้าน แม่สามีได้เข้ามาตบตีตนเอง ตนจึงหนีลงมาด้านล่าง และแม่สามีจึงถีบตนตกบันได ทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ ระยะเวลาผ่านไปชั่วครู่ สามีได้กลับมา และร่วมทำร้ายร่างกายตนเอง โดยเข้ามาตบที่ศีรษะ และดึงผม ก่อนสามีจะขับรถหนีไปกับชู้ ขับรถเข้าไปในโรงเรียนของหน่วยงานทหารแห่งหนึ่งแถว ถ.ติวานนท์ ตนเองจึงขับรถตามและได้มีปากเสียงอีกครั้ง
จากนั้นจึงมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือ เพราะตนเองถูกสามีตบตี เพื่อปกป้องชู้ และหักโทรศัพท์มือถือตนทิ้ง ต่อมาสายตรวจได้เข้ามาห้าม และไปไกล่เกลี่ยกันที่สถานีตำรวจ ซึ่งตนได้แจ้งความเรื่องทำร้ายร่างกายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 2563 แต่คดีไม่คืบ
ต่อมาวันนี้ตนเองกลับได้รับหมายศาลเรื่องฟ้องหย่าจากสามี จึงอยากให้ ดร.แก้ว ช่วยหาทนายมาสู้คดี เพราะตนเองเป็นแม่บ้าน ไม่มีอาชีพ และไม่มีรายได้ มีลูก 2 คน คนโต อายุ 22 ปี คนเล็ก อายุ 18 ปี ตลอดเวลาตนทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกและไม่รู้เลยว่าสามีแอบมีชู้ จนย้ายไปอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผย ตนเองลำบากมาก เพราะต้องเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คน ค่าใช้จ่ายทุกอย่างราคาสูงขึ้น สามีให้ค่าเลี้ยงดูลูกคนโต 8,000 บาท คนเล็ก 3,000 บาท แต่ก็ยังไม่พอ ตอนนี้ตนอยากให้สามีเลิกกับชู้อย่างเด็ดขาด ตนเองยืนยันที่จะไม่หย่า เพราะไม่ได้ผิด ถ้าจะหย่าก็ต้องจ่ายในราคาที่สูง ยอมรับ ยังรักสามี เพราะอยู่กินด้วยกันมานาน ตนอยากบอกกับสามีว่าก่อนที่จะคบกัน เคยสัญญาอะไรกันไว้บ้าง แล้วมาทำร้ายกันแบบนี้ได้อย่างไร ตอนนี้ลูกมีปัญหา และตนกับลูกป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หากสามีไม่เลิกยุ่งกับชู้ ตนเองจะฟ้องร้อง แต่ถ้าเลิกกันตนก็จะยอมจบ ซึ่งชู้ของสามีเป็นต่างด้าวที่เข้ามาทำมาหากินอยู่ในประเทศไทย
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 เมษายน 67 นางสุภาภรณ์ เมียหลวง แนะนำเอกสารหลักฐาน รวมทั้งใบสำคัญการจดทะเบียนสมรส เดินทางมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี หลังสือมวลชนมีการเสนอข่าวออกไปอย่างต่อเนื่อง วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการในด้านคดี ให้กับนางสุภาภรณ์ หลังจากไม่มีความคืบหน้ามานานนับปี
นางสุภาภรณ์ ยืนยัน จะไม่หย่ากับสามีอย่างเด็ดขาด ยังรัก และเป็นห่วง อยากให้เขากลับมารับผิดชอบดูแลครอบครัว ลูกชายก็กำลังจะเรียนมหาลัย ลูกสาวก็กำลังจะเข้า มหาวิทยาลัยเช่นกันในปีนี้ ตนเองคงไม่มีรายได้พอที่จะเลี้ยงดู สามีทำงานได้เงินเดือนเป็นแสนๆ แต่กลับทิ้งครอบครัว ไปอยู่กับสาว สปป.ลาว ดาวติ๊กต็อก
