จำคุกตำรวจ คดี กำนันนก

View icon 56
วันที่ 10 เม.ย. 2567
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - ศาลมีคำสั่งพิพากษาลงโทษจำคุกตำรวจและพลเรือน ที่ให้ความช่วยเหลือ "กำนันนก" และทำลายหลักฐาน หลังเกิดเหตุยิง "สารวัตรศิวกร" ในงานเลี้ยงวันเกิด ในจำนวนนั้นมี 1 คน ที่รอดเพราะศาลยกฟ้อง

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดศาลอ่านคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 3 ยื่นฟ้อง พันตำรวจตรี เกียรติศักดิ์ สมสุข กับพวกรวม 23 คน ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ในจำนวนนั้นเป็นตํารวจ 16 นาย ในความผิดต่อตําแหน่งราชการ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และพลเรือนอีก 7 คน หนึ่งในนั้นคือ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กํานัน ในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

คดีดีนี้ ที่ พันตำรวจตรี ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ ถูก นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ "หน่อง ท่าผา" ยิงเสียชีวิต ในงานเลี้ยงวันเกิด "กํานันนก" ที่จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 6 กันยายน ปีที่แล้ว โดยมีตำรวจและพลเรือนให้ความช่วยเหลือ "กำนันนก" และ "หน่อง ท่าผา" ในการหลบหนี เช่น ขับรถยนต์ และขี่รถจักรยนยต์นำทางให้เลย แถมยังไปช่วยทำลายหลักฐาน โดยนำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปทิ้งหนองน้ำ ทั้งที่งานนี้ตำรวจถูกยิงเสียงชีวิต แทนที่ตำรจในงานจะช่วยกันจับผู้ก่อเหตุ แต่กลับช่วยพาหนีซะงั้น

หลังเกิดเหตุไม่กี่วัน "หน่อง ท่าผา" มือยิงสารวัตรแบงค์ ที่หลบหนี ก็ถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรม ส่วน "กำนันนก" ตัดสินใจเข้ามอบตัว ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ กำนันนก ก็ไม่ขอประกันตัวทั้งในชั้นพนักงานสอบสวนและชั้นศาล

ส่วนเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่ถูกนำไปทิ้ง ตำรวจตามหาจนเจอ จากนั้นก็ส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญกู้ภาพจากเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวไว้ได้เกือบหมด เป็นหลักฐานสำคัญในการต่อจิกซอว์ทำคดีนี้

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1-16 มีอำนาจและหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยแก่ประชาชน และจับกุมผู้ต้องหาได้ทั่วราชอาณาจักร โดยเฉพาะความผิดซึ่งหน้า นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่า จำเลยบางคนให้การช่วยเหลือผู้ก่อเหตุด้วย ส่วนจำเลยที่ 17-23 ซึ่งเป็นพลเรือน ก็พบหลักฐานว่า ให้ความช่วยเหลือเพื่อก่อเหตุด้วยเช่นกัน จึงพิพากษา จำคุกจำเลยที่ 1-3, 5 คนละ 2 ปี, จำคุกจำเลยที่ 4, 6-13, 15-20, 23 คนละ 1 ปี 4 เดือน, จำคุกจำเลยที่ 21 1 ปี 9 เดือน 21 วัน, จำคุกจำเลยที่ 22 กำนันนก 2 ปี, จำเลยที่ 9-11, 20 และ 23 ให้ปรับ 40,000 บาท ส่วนโทษจำคุกสำหรับจำเลยที่ 9-11, 19, 20, 23 ให้รอการลงโทษ 2 ปี และยกฟ้องจำเลยที่ 14

หลังศาลอ่านคำพิพากษา จำเลยที่ศาลสั่งจำคุกไม่รอลงอาญา 15 คน ยกเว้น กำนันนก ที่มีหมายขัง ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งศาลได้พิจารณาอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในเวลาต่อมา ยกเว้น กำนันนก ที่ไม่ขอประกันตัว ซึ่งนักกฏหมายมองว่า ไม่ค่อยมีที่จำเลย ยิ่งเป็นคนกว้างขวางและมีธุรกิจมากมายขนาดนั้น ไม่ขอประกันตัวออกไปสู้คดี คาดว่า เจ้าตัวอาจจะกังลงใจเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง โดยคดีนี้จำเลยสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน ซึ่งคดีนี้ยังต้องต่อสู้กันถึงชั้นฎีกา

อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ในส่วนของตำรวจที่ตกเป็นจำเลย จะมีพฤติการณ์แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่ช่วยเหลือให้ กำนันนก และ หน่อง ท่าผา หลบหนี มี 3 นาย, กลุ่มที่ไปช่วยทำลายหลักฐานเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด มี 12 นาย และกลุ่มที่เพิกเฉยต่อหน้าที่ ไม่จับกุมผู้ก่อเหตุ 3 นาย โดยกลุ่มที่เพิกเฉยต่อหน้าที่นั้น ศาลเห็นว่าเพิ่งรับราชการได้เพียง 2 ปี ยังขาดประสบการณ์ จึงให้รอการลงโทษ 2 ปี

ส่วนจำเลยที่ 14 ที่ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากศาลเห็นว่า ขณะเกิดเหตุมีภาพของจำเลยที่ 14 ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างสระน้ำ ไม่ได้อยู่ในจุดเกิดเหตุ พอได้ยินเสียงปืนจึงวิ่งหลบ จากนั้นจึงย้อนกลับไปที่จุดเกิดเหตุ แล้วเก็บสิ่งของของ สารวัตรแบงค์ นำไปที่โรงพยาบาลทันที

สำหรับจำเลยที่เป็นพลเรือนทั้ง 7 คนนั้น ศาลเห็นว่า มีความผิด เพราะไปให้การช่วยเหลือเจ้าพนักงานให้ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่ในจำนวนนั้น 3 คน เป็นเพียงคนงาน, ลูกจ้างทำความสะอาด และคนขับรถ ศาลเห็นว่า เป็นการกระทำความผิดครั้งแรก ไม่เคยได้รับโทษมาก่อน พิพากษาให้ทั้ง 3 คน รอการลงโทษ

ย้ำคุณผู้ชม นี่เป็นความผิดเกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจและช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการทำผิด แต่ยังมีคดีอาญาฆาตกรรม สารวัตรแบงค์ ที่รอการพิจารณาอยู่ ซึ่งทางอัยการสำนักงานคดีอาญาได้ยื่นฟ้อง กำนันนก ต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่าผู้อื่น ส่วน นายหน่อง ท่าผา ผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญฆาตกรรมไปแล้ว จึงจำหน่ายคดี

ขณะที่ คดีฮั้วประมูลงานก่อสร้างโครงการของรัฐนั้น คดีอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน ยังไม่ได้สรุปสำนวนส่งอัยการ