วันนี้ (9 เม.ย. 67) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าหน่วยบริการและสังเกตการณ์ชั้นบรรยากาศ “โคเปอร์นิคัส” ของสหภาพยุโรป รายงานว่า อุณหภูมิทั่วโลกในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นกว่าในช่วงยุคก่อนอุตสาหกรรม 1.68 องศาเซลเซียส
ซึ่งถือเป็นอุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงที่สุดที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม และทั่วโลก ต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันแล้ว
นอกจากนี้ ในช่วง 12 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว จนถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อุณหภูมิทั่วโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยในยุคก่อนอุตสาหกรรม 1.58 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นผลจากปรากฏการณ์ “เอล นีโญ” ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว บวกกับการที่ทั่วโลกใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ซึ่งเป็นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ออกสู่ชั้นบรรยากาศ จนกลายเป็นปรากฏการณ์เรือนกระจก และทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น
ผู้อำนวยการศูนย์การบินอวกาศ “ก๊อดดาร์ด” ขององค์การนาซา แสดงความวิตกว่า ถ้าอุณหภูมิทั่วโลกไม่ลดลงภายในช่วงท้ายฤดูร้อน คือปลายเดือนสิงหาคมนี้ มีแนวโน้มสูงมากที่โลกจะต้องเผชิญกับอากาศร้อนจัดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา อุณหภูมิทั่วโลกจะพุ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ปี 2393 ซึ่งเป็นช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม
