“ไอติม พริษฐ์ – วิโรจน์” ฟาดรัฐบาลผิดคำพูดกับประชาชน อ้างชาวบ้านเลิกกิน “ช็อกมิ้นต์” แล้ว “เศรษฐา” เย้ยพูดแต่เรื่องเดิมๆ มีแต่น้ำ น่าผิดหวัง

View icon 98
วันที่ 4 เม.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“วิโรจน์” แฉคนในรัฐบาลต่อรองเงินทอนแลกตัดงบเรือฟริเกต ทำประเทศเสียโอกาส “เศรษฐา” งงใจฝ่ายค้าน ไหนเคยบอกใช้เรือประมงแทนเรือรบ

วันนี้ (4เม.ย.67) ระหว่างการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติวัน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 วันสุดท้าย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ชี้ให้เห็นถึงคำมั่นสัญญาของรัฐบาล ที่ให้ไว้กับประชาชน เป็นคำพูดที่เชื่อถือไม่ได้ พูด 100 ทำ 10 เช่น หาเสียงค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ แต่ทำจริงเพียงปรับขึ้น 400 บาท เพียงบางตำบล , ป่าวประกาศต่อชาวโลกว่าจะดำเนินกระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นธรรม ก็เกิดกรณีอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตรนายกรัฐมนตรี หรือแม้แต่ความตั้งใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังระเหยหายไปหมด และ เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นวงกลม ไม่ขยับประเทศให้เข้าใกล้รัฐธรรมนูญของประชาชนได้เลย ถือได้ว่า รัฐบาลผิดคำพูดกับประชาชน

ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายนโยบายพัฒนากองทัพ โดยเฉพาะการลดขนาดกองทัพ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร  การลดงบประมาณ หรือ ลดการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ยังไม่สามารถทำได้เห็นผลอย่างมีนัยยะสำคัญ ไม่ต่างอะไรกับการต่อยอดนโยบายของรัฐบาลสมัยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี คือ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ไม่ได้มีอะไรใหม่ แฉมีคนในกองทัพเรือ บอกว่า การจัดซื้อเรือฟริเกต วงเงิน 1,700 ล้านบาท มีคนของรัฐบาล พยายามโทรศัพท์มาคุยกับนายทหารในกองทัพเรือ ตั้งข้อสังเกตอาจเกี่ยวเงินทอน แลกกับการไม่ถูกตัดงบประมาณ แต่สุดท้ายเมื่อกองทัพเรือไม่ยินยอม จึงถูกตัดงบประมาณเรือฟริเกต ทำประเทศขาดโอกาสพัฒนาวิศวกรรมการต่อเรือ  อนาคตธุรกิจกองทัพมืดมน  ประชาชนก็ยิ่งจะไม่ไว้วางใจกองทัพ  พอกันที่กับการเล่นละครว่า ที่ชื่อว่า "การพัฒนาร่วมกัน" เพราะหวังจะได้คะแนนเสียงจากการเลือกตั้ง ไม่ได้อีกแล้ว “ประชาชนกินข้าว เลิกกินช็อกมิ้นต์แล้ว”

ส่งผลให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นตอบโต้ทันที โดยระบุว่า อุตส่าห์มานั่งฟังการอภิปราย ประเด็นกองทัพจากฝ่ายค้าน กลับมีแต่เรื่องเดิม มีแต่น้ำๆ ทั้งนั้น ทำให้รู้สึกผิดหวัง จึงขอย้ำว่า กองทัพมีไว้ เพื่อความมั่นคงของประเทศ ไม่ใช่ความมั่งคั่งของใครคงใดคนหนึ่ง ส่วนพระวาทกรรมด้อยค่า เช่น ภาพลักษณ์ตกต่ำ ใช้ปฏิบัติการข่าวสาร (ไอโอ) เกิดภาพดำมืด ส่วนตัวเห็นว่าควรให้เวลารัฐบาลทำงานบริหารให้ครบ 4 ปี ประชาชนจะตระหนักดี ในตอนจบ ว่าคนที่ใช้ไอโอ หรือพยายามครอบงำให้คนหน้ามืดตามัวคือใคร พร้อมย้ำว่า ต้องขอเวลาอีกสักพัก ก็จะได้เห็น ผลงานเป็นรูปธรรม เพราะขณะนี้เพิ่งทำงานไปได้เพียง 7 เดือน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังคงงุนงงกับท่าทีของฝ่ายค้าน  จากที่เคยเสนอความคิดเอาเรือประมงมาแทนเรือรบ แต่วันนี้มาสนับสนุนให้ซื้อเรือรบอีกแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง