ขาดงาน 3 วัน หักเงินเดือน 1 หมื่น คุ้มครองแรงงานลงพื้นที่สอบแล้ว

View icon 10.3K
วันที่ 3 เม.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ขาดงาน 3 วัน หักเงินเดือน 1 หมื่น คุ้มครองแรงงานลงพื้นที่สอบแล้ว พ่อเลี้ยงเดี่ยวโอดก่อนโพสต์สลิปพยายามเจรจาขอผ่อนค่าปรับ ที่หักยุบยิบ แต่นายจ้างให้เขียนใบลาออก เดือนนี้เงินซื้อนมให้ลูกยังไม่มี

ความคืบหน้าหลังเพจอีซ้อขยี้ข่าวโพสต์สลิปขาดงาน 3 ครั้ง บริษัทหักเงิน 10,000 บาท เงินเดือน 15,000 บาท ถูกหัก 16,000 บาท จนเงินเดือนติดลบ วันนี้ (3 เม.ย.67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พูดคุยกับมนุษย์เงินเดือนเจ้าของสลิป โดยนายเอ อายุ 30 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ทำงานที่บริษัทรับติดตั้งอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่งมานาน 4 ปี ได้เงินเดือน 15,000 บาท ที่ผ่านมา การทำงานไม่ได้เกิดปัญหาอะไร แต่เมื่อตนประสบปัญหาครอบครัว ลูกสาววัย 1 ขวบเศษ ไม่สบายต้องเข้าโรงพยาบาล ประกอบกับตนป่วย มีอาการปวดหัวไมเกรน โทรศัพท์พังทำให้บริษัทติดต่อไม่ได้ จึงเกิดปัญหาขึ้นมา เมื่อเห็นสลิปเงินเดือน ถึงกับถอดใจเงินเดือนไม่มีเหลือแถมติดลบ เดือดร้อนหนักไม่มีเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว แม้แต่เงินซื้อนมให้ลูกกินยังไม่มี

เมื่อถูกหักเงินเดือนจนติดลบ จึงได้นำเรื่องดังกล่าวมาโพสต์เพื่อต้องการเป็นอุทาหรณ์ให้คนกับคนที่จะไปสมัครงาน ให้ตรวจสอบเงื่อนไขให้ละเอียด โดยมองว่าการหักเงินของบริษัทนั้น มากเกินไปขาดงาน  3 วัน หัก 10,000 บาท เงินเดือน 15,000 บาท หักภาษี 3 % เป็นเงิน 465 บาท ถูกหักกรณีเช็กอินหลอก  5,000 บาท มาสาย  4 วัน หัก 400 บาท ทำให้เงินเดือนติดลบต้องจ่ายเพิ่มอีก 1,127 บาท และยังให้เซ็นลาออก เมื่อวันที่ 28 มี.ค.67 ทั้งที่ก่อนหน้านี้พยายามเจรจากับบริษัทขอผ่อนจ่ายค่าปรับ

นายเอ ยอมรับว่าผิด ที่หยุดงาน 2 วัน และไม่ได้แจ้งลาป่วย แต่เป็นเพราะไม่สบายจริงๆ ไม่คิดว่าบริษัทจะหักเงินมากขนาดนี้จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบด้วย เพราะที่ผ่านมา การจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน จะไม่มีสลิปแจ้งมีแต่ใบตารางที่แจ้งผ่านไลน์เท่านั้น ส่วนกฎระเบียบของบริษัท ทราบเพียงเวลาเข้างาน หากมาสายหลัง 08.15 น. จะถูกหักเงิน 100 บาท กรณีไม่สแกนนิ้ว ปรับครั้งละ 300 บาท ไม่สวมชุดนิรภัยให้ครบถ้วน ปรับครั้งละ 1,000 บาท และกำหนดให้ทำงาน 110 เคสต่อเดือน ถ้าทำไม่ถึง 110 เคส จะหักเคสที่ขาดไปเคสละ 300 บาท แต่ถ้าทำงานเกิน 110 เคส จะได้เงินเพิ่มเคสละ 150 บาท โดยบริษัทไม่มี  OT และให้สลับกันหยุดกันคนละ 1 วัน ไม่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์

ทางด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้นายเอ เขียนใบคำร้อง แบบ คร. 7 แบบร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน และบันทึกถ้อยคำต่างๆเพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดตามข้อร้องเรียน

นางศิริญาพร ศิริเมธาวัธน์ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า   จากการลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐานของตัวลูกจ้าง ทราบจากนายเอ ว่านอกจากเขาแล้วยังมีลูกจ้างคนอื่นๆ ที่ทำงานด้วยกันอีก 5 คน ที่เจอปัญหาคล้ายกัน และได้ลาออกไปแล้ว

เบื้องต้นเป็นการหักเงิน ตามมาตรา 67 ที่ไม่ถูกต้อง หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ต้องสอบข้อเท็จจริงให้มากที่สุด และได้ติดต่อลูกจ้างที่เป็นผู้เสียหายรายอื่นที่ได้รับผลกระทบจากการที่นายจ้างหักค่าจ้างให้ไปพบที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งจะเข้าตรวจสอบนายจ้าง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย