รุดเยี่ยม ตร.หญิง น้องยังอยากเป็นตำรวจ

View icon 145
วันที่ 25 มี.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
น้องยังอยากเป็นตำรวจ รรท.ผบ.ตร. รุดเยี่ยม "น้องซาน่า" ตำรวจหญิง หลังเกิดอุบัติเหตุจากการฝึก สั่งตรวจสอบทุกขั้นตอนหลักสูตรฝึกกองร้อยน้ำหวาน

ตำรวจหญิงกองร้อยน้ำหวาน แฉครูฝึกทำโทษจนป่วยซึมเศร้า วันนี้ (25 มี.ค.67) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เปิดเผยว่า เรื่องของหลักสูตรอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าน้องเริ่มสมัครเป็นตำรวจในหลักสูตรใด ระยะเวลาเท่าไร และล่าสุดฝึกหลักสูตรอะไร แต่ทราบเพียงว่าเป็นการฝึกกองร้อยน้ำหวาน โดยตำรวจตระเวนชายแดนเป็นผู้อำนวยการฝึก ระหว่างการฝึกในหลักสูตรมีแนวทางการฝึกอย่างไร เนื่องจากว่า เจ้าตัวโพสต์ถึงหลักสูตรในการฝึกที่ถูกกระทำ (ก็คือเตะเข้าที่หัวจนสมองบวมเลือดออกในสมอง) ยืนยันว่าไม่ได้มีหลักสูตรเช่นนี้ และได้พูดคุยกับแม่ของตำรวจหญิงแล้วพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุจริงในระหว่างที่ฝึก จู่ ๆ หัวไปโดนเท้าของเพื่อน

ส่วนก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าน้องพยายาม บอกเล่าเรื่องราวให้สังคมรับทราบว่าถูกกระทำ แต่ถูกกีดกันจากผู้บังคับบัญชา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับทราบเรื่องดังกล่าว และจะสั่งให้ตรวจสอบ โดยเฉพาะประเด็นใดที่ผู้บังคับบัญชาใช้คำพูดลักษณะไม่เหมาะสมกับผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วน บช.น. มีกองบังคับการศูนย์ฝึกอบรม แต่ต้องส่งกำลังพลไปฝึกที่อื่นในลักษณะนี้ด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าหลักปฏิบัติเหมาะสมหรือไม่ หากมีอะไรไม่เหมาะสมจะมีการแก้ไขในอนาคต

“ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เรื่องที่เกิดมาตั้งแต่ 66 เพิ่งมาเกิดเรื่องในตอนนี้นั้น ไม่อยากตอกย้ำในความรู้สึกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำอีก โดยมีการสัญญากับน้องตำรวจหญิงว่า หลังการรักษาตัว ขอให้ไปรายงานตัว ด้วยตัวเองกับ ผบ.ตร.” 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า อาการของน้องตำรวจหญิงเบื้องต้นทรงตัวดีสามารถสื่อสารได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสในบางช่วง แต่เมื่อพูดถึงประเด็นให้ไปรายงานตัวตำรวจหญิงยิ้มรับ ซึ่งมั่นใจว่าจากการพูดคุยน้องยังคงอยากเป็นตำรวจอยู่ แต่ขณะนี้ รู้สึกเหนื่อยและเบื่อหน่าย แต่ก็ต้องประคับประคองกันไป ซึ่งตนทราบเรื่องจึงรีบเดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจน้อง

ส่วนอาการซึมเศร้าเป็นก่อนหรือหลังการรับข้าราชการตำรวจ ผบ.ตร. ระบุว่า ต้องขอตรวจสอบก่อน เท่าที่ได้พูดคุยกับน้อง เขา อยากสู้และกลับมาเข้มแข็งด้วยตัวเอง โดยไม่พึ่งยารักษา ซึ่งตัวน้องได้สัญญาว่าจะดูแลตัวเอง จะดูแลแม่ ดูแลยาย

สุดท้ายอยากฝากสื่อมวลชนอย่านำข้อความภายในจดหมายไปเผยแพร่เพื่อตอกย้ำความรู้สึกของน้อง เพราะกังวลว่าความคิดน้องจะถอยหลังกลับ เพราะขณะนี้น้องกำลังใจกำลังดีขึ้นและกำลังเดินหน้าเพื่อรักษาตัวเอง