พิธา-ก้าวไกล คะแนนนิยมพุ่ง เศรษฐานั่งนายกฯ 8 เดือน กอบกู้ไม่ขึ้น

View icon 114
วันที่ 25 มี.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เทพไท เชื่อ นิด้าโพล พิธา-ก้าวไกล คะแนนนิยมพุ่งแรงทำอนุรักษ์นิยมกระอัก คนมองถูกกลั่นแกล้งคะแนนสงสารยิ่งมา ขณะที่เศรษฐานั่งนายกฯ 8 เดือน กอบกู้ไม่ขึ้น

นิด้าโพล ปชช.หนุนพิธาเป็นนายกฯ ก้าวไกลคะแนนนิยมพุ่ง วันนี้ (25 มี.ค.67) นายเพทไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช ให้ความเห็นทางการเมืองหลังผลการสำรวจของนิด้าโพลเกี่ยวกับความนิยมของนักการเมืองและพรรคการเมือง ที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 42.75 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) อันดับ 2 ร้อยละ 20.05 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 3 ร้อยละ 17.75 นายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 4 ร้อยละ 6.00 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย)

ผลโพลในประเด็นนี้พบว่า นายพิธามีคะแนนนำ นายเศรษฐามากกว่าเท่าตัว และเมื่อรวมคะแนนนิยมของอุ๊งอิ๊ง เข้าไปด้วย ก็ยังไม่ถึงครึ่งของความนิยมนายพิธา ทั้งที่นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี มาแล้ว 8 เดือน น่าจะสร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน แสดงว่าสถานะเป็นนายกรัฐมนตรีไม่สามารถช่วยดึงคะแนนนิยมขึ้นมาได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง สำหรับหลักคิดของพรรคเพื่อไทย ที่กระโดดข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาลกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม หวังนำผลงานจากการเป็นรัฐบาล กอบกู้คะแนนนิยมกลับคืนมา แต่เมื่อวัดจากผลการสำรวจของนิด้าโพลในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความตกต่ำของพรรคเพื่อไทย จากการตระบัดสัตย์ หักล้างประชาชนอย่างชัดเจน

6600f202f080c1.67084750.PNG

นายเทพไท วิเคราะห์ถึงผลโลส่วนที่ 2 พรรคก้าวไกล เป็นพรรคที่ได้รับความนิยม เป็นอันดับ 1 ร้อยละ 48.45 ผลโพลวัดความนิยมพรรคการเมือง ก็สอดคล้องกับความนิยมตัวบุคคลที่เป็นแคนดิเดตของพรรคการเมืองเช่นกันคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย ยังไม่ถึงครึ่งของพรรคก้าวไกล และเมื่อเปรียบเทียบกับผลโพล เดือนธันวาคม 2566 ความนิยม 24.05% ลดเหลือ 22.10% เห็นได้ว่าคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยลดลง ในขณะที่พรรคก้าวไกลมีคะแนนนิยมสูงขึ้นจาก 44.05% เป็น 48.45% แสดงให้เห็นว่ายิ่งเวลาทอดยาวไป คะแนนความนิยมระหว่างพรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทยยิ่งสวนทางกัน และเมื่อรวมคะแนนนิยมของพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมทุกพรรค ที่อยู่ขั้วตรงข้ามพรรคก้าวไกล พบว่าคะแนนนิยมรวมกันของทุกพรรค ยังน้อยกว่าพรรคก้าวไกลอีก

ผลการสำรวจของนิด้าโพลไม่ใช่คำตอบทั้งหมด แต่เป็นดัชนีวัดความนิยมของประชาชน เพื่อมองถึงแนวโน้มการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้และอนาคตว่า พรรคก้าวไกลยังครองใจคนส่วนใหญ่ของประเทศ ยิ่งประชาชนมีความรู้สึกว่า พรรคก้าวไกล ถูกกลั่นแกล้งหรือถูกรังแกทางการเมืองมากเท่าไหร่ คะแนนความสงสาร คะแนนของชนชั้นกลาง ก็จะเทให้พรรคก้าวไกลมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเป็นโจทย์ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมต้องขบคิดกันต่อไปว่า ทำอย่างไรถึงจะเอาชนะพรรคก้าวไกลให้ได้

นายเทพไท วิเคราะห์ทิ้งท้ายว่า การทำลาย การบ่อนไซ หรือการตัดตอนพรรคก้าวไกล โดยการยุบพรรค ไม่ใช่โจทย์คำตอบในการเอาชนะพรรคก้าวไกลบนเวทีการเมืองได้