เช้านี้ที่หมอชิต - พรรคภูมิใจไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี เป็นที่จับตากันหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะเก้าอี้เลขาธิการพรรค ซึ่งว่างลงจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตเลขาธิการพรรค มีความผิดปมใช้นอมินีถือหุ้นบุรีเจริญฯ ทำให้นายศักดิ์สยาม ลาออกจากทุกตำแหน่ง ทั้ง สส. และเลขาธิการพรรค อย่างไรก็ตาม กระแสก่อนการประชุมมีการคาดการณ์ว่าเก้าอี้นี้มีล็อกไว้ให้ตระกูลชิดชอบ แน่นอน
ที่สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ พรรคภูมิใจไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 หนึ่งในวาระสำคัญคือการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ใช้เวลาประชุมกันประมาณ 2 ชั่วโมง
เข้าสู่ช่วงบ่าย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เปิดตัวกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และไม่ผิดจากที่หลายคนคาดการณ์ เก้าอี้เลขาธิการพรรค ยังคงอยู่กับตระกูลชิดชอบ ได้แก่ นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ นายเนวิน ชิดชอบ ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ สังเกตได้ว่า มีลักษณะของการปรับทัพครั้งใหญ่ โดยดึงทายาทการเมืองเจนใหม่ขึ้นมามีบทบาทมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น รองเลขาธิการพรรค ตกเป็นของ นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี หลานรักของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ และ นายภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ สส.พิจิตร หลายชายของ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ขณะที่สองพี่น้องทายาทบ้านใหญ่ "ปริศนานันทกุล" นายภราดร ปริศนานันทกุล ขยับขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าพรรค ส่วน นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค เป็นต้น
ทั้งนี้ นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย มีโอกาสได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในฐานะแม่บ้านพรรคคนใหม่ โดยสื่อได้ถามว่า ตำแหน่งเลขาฯพรรคเป็นบ้านใหญ่ตระกูล "ชิดชอบ" คนที่ 2 ถือว่าเป็นตำแหน่งที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญ คุณพ่อเนวิน ได้ให้คำแนะนำอย่างไร รวมถึงการถูกสังคมมองว่าเป็นการล็อกเก้าอี้นี้ไว้ให้ตระกูลชิดชอบหรือไม่ เพราะเพิ่งเข้าวงการเมืองมาไม่นาน แล้วก็ได้นั่งตำแหน่งสำคัญ
นายไชยชนก กล่าวว่า ในฐานะที่ลูกพ่อ และหลานปู่ (ชัย ชิดชอบ) คงปฏิเสธไม่ได้และไม่ผิดที่คนจะมอง แต่ในความเป็นทายาทนักการเมือง ทำให้ได้มีประสบการณ์ให้เรียนรู้ได้เร็วที่จะทำหน้าที่นี้ คิดว่ามีมุมบวกค่อนข้างมาก แต่ต้องพิสูจน์ตัวเอง ถือเป็นหน้าที่ของประชาชน และสมาชิกพรรคที่จะตัดสินจากผลงาน
