ปชป. ฟาดแรง ซัดรัฐบาล "เศรษฐา" หมดสภาพ ขาดความเชื่อมั่น ประจานไร้น้ำยา และจริยธรรม

View icon 140
วันที่ 24 มี.ค. 2567
ข่าวในประเทศ
แชร์
ปชป.ซัดรัฐบาล เศรษฐา หมดสภาพ ขาดความเชื่อมั่น ประจานไร้น้ำยา และจริยธรรม เหตุประมาณการ GDP ถูกปรับลด  เตือนรากหญ้าตาย รายใหญ่ไปไม่รอด ประเทศหายนะ

วันนี้ (24 มี.ค. 67) นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีต สส. และประธานกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจสภาฯ กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลว่า จากที่หลายสถาบันองค์กรทั้งต่างประเทศ ในประเทศ ภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารโลก สภาพัฒน์ฯ ศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ กสิกรไทย ต่างศึกษาวิเคราะห์ประมาณการเจริญเติบโตเศรษฐกิจหรือ GDP ของประเทศไทยในปีนี้จะลดลง จากเดิม 3% กว่า ลงมาเหลือ 2% กว่า

สะท้อนถึงการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลตลอด 6 เดือนว่าล้มเหลวอย่างชัดเจน และขาดความเชื่อมั่นในสิ่งที่รัฐบาลจะทำต่อไปในอนาคต ที่สำคัญยังบกพร่องเรื่องจริยธรรม เพราะรัฐบาลทำลายกระบวนการยุติธรรมไทย ทำให้การดูแลนักโทษเกิดสองมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ข้ออ้างหนึ่งที่รัฐบาลชอบใช้แก้ตัว คืองบประมาณแผ่นดินล่าช้าเป็นเหตุให้ไม่มีผลงานนั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล เพราะรัฐบาลมีอำนาจที่จะบริหารงบประมาณทั้งก่อนและหลังงบประมาณบังคับใช้ เช่น การเร่งรัดหลักเกณฑ์การใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในส่วนต่างๆ และเห็นภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

รองเลขาธิการปชป. กล่าวอีกว่า เริ่มต้นเข้ามาบริหารประเทศรัฐบาลประกาศจะทำหลายเรื่อง ทั้งโครงการดิจิตอลวอลเล็ต ขึ้นค่าแรง แก้หนี้ แต่ทำสำเร็จเพียงเรื่องเดียว คือช่วยนักโทษอดีตนายกฯ ที่ผ่านมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง เดินสายไปต่างประเทศบ่อยครั้งโดยช่วงแรกเดินทางไปโรดโชว์ ขายเมกะโปรเจ็คโครงการแลนด์บริดจ์ แต่สุดท้ายไม่มีใครสนใจชัดเจน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเดินแฟชั่นโชว์ขายผ้าขาวม้า นายกฯอาจรู้สึกภูมิใจนิตยสารดังให้สมญานามเป็นเซลส์แมน แต่สำหรับตนอายคนทั้งโลก เพราะนายเศรษฐาเป็นได้เพียงเซลส์แมนขายฝัน เป็นผู้นำแฟชั่น ไม่ใช่ผู้นำประเทศ

นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการแก้หนี้ให้กับประชาชน ขณะนี้หนี้สินทั้งในและนอกระบบมีมูลค่าเกือบ 20 ล้านล้านบาท สุดท้ายปิดโครงการช่วยได้ไม่ถึง 1% ของหนี้ทั้งหมด แม้รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนสูงและแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ แต่ขณะเดียวกันก็เกิดความลักลั่น เพราะคนในรัฐบาลส่งสัญญาณบ่อยครั้งอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศลดดอกเบี้ย เพื่อให้คนกู้เพิ่ม และยังมีภาพความขัดแย้งกับธปท.อีก ฉะนั้น รัฐบาลจะต้องส่งเสริมการลงทุนและนวัฒนกรรมใหม่ โดยสนับสนุนรายย่อยเพื่อการกระจายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ถ้ารากหญ้าตาย รายใหญ่ก็ไม่รอด ถึงเวลานั้นหายนะของประเทศเกิดขึ้นแน่

“เศรษฐกิจไทยต้องเร่งปรับโครงสร้าง เพราะการโปรโมทแต่การท่องเที่ยวเหมือนหากินกับของเก่าขายสมบัติชาติระยะยาว ชูเรื่องนี้อย่างเดียวไม่ได้ ประกาศวิสัยทัศน์ให้ไทยประเทศเป็นฮับการท่องเที่ยว ซึ่งไม่ต้องประกาศก็เป็นอยู่แล้ว เป็นผู้นำประเทศต้องตามโลกให้ทัน อยากให้ไปดูประเทศสิงค์โปร์ที่ผู้นำประเทศประกาศให้ประเทศของเขาจะเป็นฮับด้าน AI” นายชนินทร์ กล่าว