ไอซ์ รักชนก ปล่อยไก่ อภิปรายในสภา ขอเพิ่มงบอุดหนุนศูนย์เด็กเล็ก กทม. ดูแลบุคลากรมากขึ้น เสนอแก้ระเบียบรับเด็กเล็ก 6 เดือน ด้านกรรมาธิการแจ้ง ขอผิดที่ ต้องไปแจ้ง กทม. ไม่ใช่สภาฯ
วันนี้ (22 มี.ค. 67) น.ส.รักชนก ศรีนอก สส. กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวอภิปราย ในมาตรา 33 ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแบบพิเศษกรุงเทพมหานคร น.ส.รักชนก กล่าวว่า กทม. มีรายการที่ใช้ชื่อว่า "เงินอุดหนุนสำหรับกิจกรรมศูนย์เด็กเล็ก" โดยใช้งบประมาณไป 21 ล้านบาท ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการปรับลดเงินแต่กลับไม่เอามาเพิ่มในส่วนที่ควรจะเพิ่ม การดูแลเด็กเล็กใน กทม. โดยใช้เงินจำนวน 21 ล้านบาท นี้พอหรือไม่กับจำนวนเด็กทั้งหมดใน กทม.
น.ส.รักชนก ระบุว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใน กทม. มีทั้งหมด 292 แห่ง ซึ่งมีการกระจุกอยู่ ในเขตมีนบุรีและหนองจอกกว่า 30-40 แห่ง และพบว่าในพื้นที่ กทม. มีถึง 5 เขตที่ไม่มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ทำให้เห็นว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไม่ได้กระจายตัวอยู่ใน กทม. จากการลงพื้นที่ พบว่าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกว่า 70% อยู่บนพื้นที่เอกชน ซึ่งส่งผลทำให้ติดปัญหาในการพัฒนา เนื่องจาก กทม.ไม่สามารถเข้าไปพัฒนาได้ รวมทั้ง คุณภาพชีวิตของครูในศูนย์ฯ เป็นลูกจ้างรายวัน ที่ไม่มีสวัสดิการสังคม เงินเดือนน้อย ออกช้า ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ ขาดความมั่นคงในชีวิต
น.ส.รักชนก มองว่า กทม. เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีศักยภาพมากที่สุดและมีงบประมาณจำนวนมาก กทม. มีศักยภาพที่จะทำ หากมีเจตจำนงในการจัดสรรทรัพยากรอย่างถูกที่ถูกทาง ซึ่งยังมีอีกหลายโครงการที่มีการจัดสรรงบประมาณอย่างไม่มีประสิทธิภาพ จึงขอเสนอแนะให้มีการตัดงบประมาณออกไป 5%
แต่นายบุญลือ ประเสริฐโสภา กรรมาธิการและประธานอนุกรรมาธิการปกครอง ชี้แจงว่า อนุกรรมกรรมาธิการได้พิจารณาด้วยความรอบคอบ และขอเรียนว่าได้มีการปรับลดงบประมาณส่วนกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการพิจารณาร่วมกันแล้วว่า หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิเศษ รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้งบประมาณส่วนกลาง โดยเฉพาะข้อสังเกตของ น.ส.รักชนก ที่บอกว่ามีการปรับลดงบประมาณศูนย์เด็กเล็กในเขตต่างๆ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตนขอเรียนว่า “ท่านต้องไปถามกรุงเทพมหานคร” ตนเข้าใจว่าเป็นข้อตกลงระหว่างกรุงเทพมหานครกับสำนักงบประมาณ ซึ่งเรื่องนี้ทางกรรมาธิการ ทั้งอนุกรรมาธิการและกรรมาธิการชุดใหญ่ ไม่ได้เข้าไปก้าวล่วงอะไร
นี่เป็นการอภิปราย งบประมาณ ครั้งแรก ของ น.ส.รักชนก แต่กลับอภิปรายในประเด็นที่ไม่ตรงกับความรับผิดชอบของสภาผู้แทนราษฎร
