สนามข่าว 7 สี - ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มหากาพย์ศึกแย่งชิงสลากกินแบ่งรัฐบาล 30 ล้านบาท ที่จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่าง "หมวดจรูญ-ครูปรีชา" ได้จบลงแล้ว แต่สิ่งที่ต้องติดตามต่อคือ หมวดจรูญ เดินหน้าฟ้องร้องครูปรีชา-พวก ทั้งสิ้น 3 คดี ซึ่งคดีแรกเพิ่งจะตัดสินไปเมื่อวานนี้ (20 มี.ค.) ว่าครูปรีชาจะต้องรับโทษเป็นระยะเวลา 2 ปี ไม่รอลงอาญา
เมื่อวานนี้ (20 มี.ค.) ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษา กรณี ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ และนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความ ในข้อหาร่วมกันเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา ซึ่งศาลฯพิพากษาว่า ครูปรีชามีความผิดจริง ต้องรับโทษจำคุก 3 ปี แต่คำให้การมีประโยชน์ จึงลดโทษให้เหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากการกระทำนั้นมีลักษณะของการกระทำเป็นขบวนการ และทำให้ความยุติธรรมเกิดความเสียหาย ส่วน ทนายวรยุทธ ศาลฯเห็นว่าเป็นการทำหน้าที่ของทนายความ ตามข้อมูลที่ได้จากลูกความ จึงมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องทนายวรยุทธ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ครูปรีชา จากห้องพิจารณาคดี ไปยังห้องควบคุมตัวที่ชั้นล่างของศาลจังหวัดกาญจนบุรี ขณะเดียวกัน ครูปรีชามอบหมายให้ทนายความคนใหม่ ยื่นเรื่องขอประกันตัว โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัว เป็นเงินสด 75,000 บาท
นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เปิดใจหลังได้รับประกันตัวว่า หลังจากนี้ตนเองก็จะขอใช้สิทธิ์ในการดำเนินการตามกระบวนยุติธรรม เพราะตนเองยืนยันว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นของตัวเอง แต่พยานหลักฐานที่ตนเองมียังไม่เพียงพอ เนื่องจากหลักฐานสำคัญของตนเองหายไป ตอนนี้ตนเองกำลังเดินเรื่องดำเนินคดีอยู่ เพื่อพิสูจน์ว่าตนเองได้ไปตลาดจริง ๆ ส่วนการยื่นอุทธรณ์นั้น ตนเองจะปรึกษาทนายความ แล้วจะดำเนินการภายใน 30 วัน หรือหากครบกำหนดแล้ว สามารถยืดระยะเวลาออกไปได้อีก 45 วันได้ และคาดว่ากว่าศาลอุทธรณ์จะนัดฟังคำพิพากษา ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 ปี
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ บอกว่า เบื้องต้นทราบว่าครูปรีชาประกันตัวออกมาต่อสู้คดีแล้ว ก็ขอแสดงความยินดีด้วยที่ไม่ต้องเข้าไปในเรือนจำ ผ่านมาครูปรีชาดำเนินการฟ้องร้องหมวดจรูญและตนเองไม่หยุดไม่หย่อน หรือประมาณ 10 คดีเห็นจะได้ พูดง่าย ๆ ว่าหากพลาดแพ้ คงติดคุกติดตารางไปแล้ว โดยหลังจากนี้หมวดจรูญจะปรึกษาตนเอง เพื่อดำเนินการฟ้องร้องครูปรีชาและพวก แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ากี่คดี แต่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา
ส่วนกรณี นางปณัญชญา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว พูดว่าไม่หนักใจ ยันให้ทนายสู้คดีแน่นอน ซึ่งเจ๊เกียว เป็น 1 ในพยานทั้ง 10 ที่ถูกหมวดจรูญฟ้อง เนื่องจากให้การเท็จ 1 ใน 3 คดีที่หมวดจรูญฟ้องตอนนี้ โดยศาลฯนัดสืบพยานในวันที่ 1 เมษายน 2567 ซึ่งตนเองมองว่าอยากให้เจ๊เกียวมาฟังคำพิพากษา เนื่องจากคำพิพากษาระบุชัดเจนเลยว่า พยานต่าง ๆ เป็นขบวนการเดียวกับครูปรีชา ก็อยากจะให้เจ๊เกียวสู้ให้สุด ๆ เพราะสุดท้ายแล้วอาจจะลงเอยแบบครูปรีชาก็เป็นได้
ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องจับตาว่า อีก 2 คดี ที่หมวดจรูญ ฟ้องครูปรีชาและพวก จะลงเอยอย่างไร เพราะเรื่องนี้คงไม่จบง่าย ๆ แน่ แต่เชื่อว่ามีใครบางคนโกรธมาก ๆ จนอยากให้อีกฝ่ายติดคุกสถานเดียว
