รถหรูนำเข้าผิดกฎหมายทำรัฐเสียหาย 11 ล้าน 4 กรรมการบริษัทเจอดีเอสไอรวบตัวไว้ได้

View icon 205
วันที่ 17 มี.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ดีเอสไอตามรวบ 4 ผู้ต้องหา กรรมการ 2 บริษัท รู้เห็นนำเข้ารถหรู ซื้อขายเท็จต่ำกว่าราคาจริง ทำรัฐเสียหาย 11 ล้านบาท

รถหรูนำเข้า วานนี้(วันที่ 16 มีนาคม 2567) เวลาประมาณ 08.15 น. ชุดปฏิบัติการที่ 2 ของศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกันจับกุม นายจิราพัฒน์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 4753/2566 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2566 ในคดีพิเศษที่ 74/2565  ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 253  และร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ นำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง หรือยื่นบัญชีหรือเอกสารอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษี มาตรา 202 และมาตรา 208แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560  ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

สืบเนื่องจาก บริษัทแห่งหนึ่ง มีนายจิราพัฒน์ (สงวนนามสกุล) กรรมการบริษัทผู้มีอำนาจทำการแทน และ นางสาวศิริพร (สงวนนามสกุล) ร่วมกับ บริษัทแห่งที่สอง ซึ่งมี นางสาว พรรณพิจิตร (สงวนนามสกุล) กรรมการผู้มีอำนาจทำการแทน และนางสาว พิจิตร (สงวนนามสกุล) ได้ร่วมกันนำเข้ารถยนต์หรู จำนวน 4 คัน เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยแสดงราคาซื้อขายรถยนต์ที่เป็นเท็จต่ำกว่าราคาซื้อขายจริง ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย กว่า 11,000,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายจิราพัฒน์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา ได้ที่บริเวณริมทางเท้าด้านหน้าอาคารพาณิชย์ ในซอยพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร 35 แยก 3 แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ ในการจับกุมเจ้าพนักงานชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา สิทธิตามประมวลกฎหมาย รวมถึงแจ้งว่า ต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว ทั้งนี้เจ้าพนักงานชุดจับกุมได้แจ้งพนักงานอัยการและผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการกรมการปกครอง (ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร) และได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เรียบร้อยแล้ว และได้ควบคุมตัวส่งมอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษผู้รับผิดชอบสำนวนคดีนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป