ปทส.ค้นบ้านสาวพิจิตร เจองูสิง 7 กระสอบ ซากงูแช่แข็ง สารภาพทำเพื่อเลี้ยงชีพ

View icon 1.8K
วันที่ 7 มี.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ปทส. รวบตัวการค้าสัตว์ป่าฯ ค้นบ้านเจองูสิง 7 กระสอบ ซากงูแช่แข็ง ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน เงินหมุนเวียนครั้งละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท สารภาพทำเพื่อเลี้ยงชีพ

วันนี้ (7 มี.ค.67) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.หญิง ภิ์ษัชกร เลิศวิลัย สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปทส., ร.ต.อ.วีรยุทธ อำมาตย์ รอง สว. กก.4 บก.ปทส., ด.ต.ภูรีรินทณ์ กสิกิจจาภิวัฒน์ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปทส. และ จ.ส.ต.ชัยวัฒน์ วิจิตรพล ผบ.หมู่  กก.4 บก.ปทส. ร่วมกันจับกุม นางแมว อายุ 45 ปี ซึ่งแสดงตนเป็นเจ้าบ้านที่ทำการตรวจค้น และเป็นเจ้าของงูสิง พร้อมตรวจยึดของกลาง ได้แก่ 1.งูสิง (Ptyas korros) จำนวน 7 กระสอบ น้ำหนักรวม 34.26 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายบริเวณบ้าน 2.ซากงูสิง จำนวน 4 ถุง น้ำหนักรวม 5 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายตู้เย็นแช่แข็ง และ 3.โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องใช้ในการติดต่อซื้อขายงูสิง โดยจับกุมได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในอ.วังทรายพูน จ.พิจิตร

กก.4 บก.ปทส.ได้สืบสวนทราบว่ามีตัวการสำคัญ ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการค้าสัตว์ป่าคุ้มครองข้ามชาติอยู่ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยบุคคลดังกล่าวนี้มีพฤติการณ์รับซื้องูสิง เพื่อส่งให้กับผู้ที่เข้ามารับตามแต่จะนัดหมาย อ้างว่านำไปส่งให้ฟาร์มในจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นฟาร์มงูจงอาง นอกจากนี้ ยังมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนส่งชนิดสัตว์ตามฤดูกาลไม่ว่าจะเป็นลิงแสม ตัวเหี้ย และงูเห่า

จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาคนดังกล่าว เป็นเจ้าของบ้านและพักอยู่ที่บ้านในตำบลหนองปล้อง อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร โดยมีพฤติการณ์รับซื้องูสิง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ประเภทสัตว์เลื้อยคลาน ลำดับ 27 จริง จึงได้ขอศาลออกหมายค้นที่ 83/2567 ลงวันที่ 6 มี.ค. 67 จากนั้นนำหมายเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบงูสิงของกลาง น้ำหนักรวมเกือบ 40 กก. ถ้านับแยกเป็นตัวได้ประมาณ 40-50 ตัว น้ำหนักตัวละประมาณ 0.5 – 1 กก. เต็มถุงกระสอบ 7 ถุง พร้อมซากงูสิงซ่อนในตู้เย็นแช่แข็ง อีก 4 ถุง น้ำหนัก รวมกว่า 5 กก.
 
สอบถามนางแมว ยอมรับว่า ตนรับซื้องูสิงมาจากชาวบ้านจริง โดยรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 170 บาท แต่ขายต่อในราคากิโลกรัมละประมาณ 200-300 บาท ส่วนที่เป็นซากราคาอาจจะลดลงนิดหน่อย อ้างว่าทำเพื่อประกอบเลี้ยงชีพ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบทั้งข้อมูลการใช้โทรศัพท์และการเงินของนางแมวแล้ว พบเงินหมุนเวียนในการค้าขายงูครั้งละไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท และมีเส้นทางการส่งออกไปถึงประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันออก ซึ่งนางแมวไม่มีใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองแต่อย่างใด และสัตว์ทั้งหมดที่อยู่ภายในบริเวณบ้าน ก็ไม่เคยขออนุญาตมาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขยายผลและติดตามจับกุมขบวนการลักลอบค้างูสิงข้ามชาติต่อไป

งูสิงถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ที่มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นงูที่ไม่มีพิษ ไม่อันตรายต่อมนุษย์ และเป็นงูที่ควบคุมประชากรสัตว์ ซึ่งเป็นพาหะนำโรค เช่น หนู ฯลฯ ไม่ให้มีจำนวนมากเกินไปในธรรมชาติ การที่มนุษย์เราจับงูสิงมาประกอบเป็นอาหารย่อมส่งผลต่อระบบนิเวศภาพรวม ทำให้เสียสมดุลทางธรรมชาติ ทำให้มนุษย์ต้องหันมาใช้สารเคมีในการกำจัดสัตว์พาหะนำโรค ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งตัวมนุษย์เอง และต่อสัตว์อื่นๆ ที่ยังมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศ และในแง่ของกฎหมาย ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการอาชญากรรม ผิด พ.ร.บ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 อัตราโทษจากการลักลอบครอบครอง จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ค้า มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง