ลูกศิษย์ร่ำไห้ สรีรสังขาร หลวงปู่พูน กลับถึงวัด

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีหลวงปู่พูน มรณภาพปริศนา ร่างถูกเผาเหลือแค่ท่อนบนอยู่ภายในป่า ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่า ถูกฆาตกรรมหรือไม่ แต่ญาติมั่นใจว่า หลวงปู่ถูกฆ่า ขณะที่เมื่อวาน สรีรสังขาร หลวงปู่พูน กลับถึงวัดแล้ว ขณะลูกศิษย์และชาวบ้านต่างร่ำไห้ที่ต้องสิ้นพระนักพัฒนา

ลูกศิษย์ร่ำไห้ สรีรสังขาร หลวงปู่พูน กลับถึงวัด
บรรดาศิษยานุศิษย์ ต่างร่ำไห้เสียใจอย่างหนักต่อการจากไปของ หลวงปู่พูน ฐิตปุญโญ เจ้าอาวาสวัดป่าท่าเกษม อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังร่างถูกเผามรณภาพปริศนา อยู่กลางป่าหลังวัด โดยเหลือแต่เพียงท่อนบน เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา

โดยเมื่อวานนี้ ประมาณ 16.30 น. ศิษยานุศิษย์ ได้นำสรีรสังขารของหลวงปู่พูน มายังวัดป่าท่าเกษม เพื่อนำมาประกอบพิธีทางศาสนา หลังจากนำร่างไปชันสูตรหาสาเหตุการมรณภาพ โดยลูกศิษย์ และเจ้าหน้าที่นำสรีระสังขารที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าสีขาวขึ้นสู่ศาลาการเปรียญวัด บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าชาวบ้านหลายคนร่ำไห้ เนื่องจากต้องสิ้นพระนักพัฒนาไป

ญาติหลวงปู่ถูกเผา มั่นใจถูกฆ่าแล้วเผาจากที่อื่น
สอบถาม นางสาวดวงพร สวัสดี อายุ 41ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานสาวหลวงปู่พูน มั่นใจว่า สาเหตุที่หลวงปู่มรณภาพนั้น เป็นการฆาตรกรรมแน่นอน และเชื่อว่า น่าจะถูกฆาตกรรมแล้วเผาจากที่อื่น แต่ศพไหม้ไม่หมด จากนั้นจึงนำมาทิ้งไว้ตรงที่พบศพเพื่ออำพรางว่าถูกไฟป่าไหม้เพราะถ้าไฟไหม้ตรงจุดเกิดเหตุ จะต้องมีกองเศษเถ้าถ่านมากแน่นอน และสังเกตว่า ไม่มีร่องรอยของน้ำที่ใช้ดับไฟเลย เพราะหากรถดับเพลิงมาดับ น่าจะต้องทิ้งร่องรอยน้ำไว้ ไม่น่าจะแห้งหมด

เชื่อฝีมือคนยืมเงินหลวงปู่ 1 ล้านบาท
ขณะที่ นายไพยุทธ มั่นบ่อแก อายุ 77 ปี เป็นไวยาวัจกร วัดข้างเคียง ก็เห็นตรงกันว่า คนร้ายจะต้องนำตัวหลวงปู่ไปฆ่า และเผาจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งไว้ในป่าหลังวัด ส่วนผู้ก่อเหตุนั้น ตนสงสัยบางคน แต่ยังไม่สามารถบอกได้ คิดว่า น่าจะเป็นกลุ่มคนที่มายืมเงินหลวงพ่อไปเกือบ 1 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน มีภาพจากกล้องวงจรปิดชาวบ้าน ที่บ้านอยู่ห่างจากวัด 2 กิโลเมตร เป็นภาพหลวงปู่พูนนั่งท้ายรถสามล้อเครื่องออกบิณฑบาต ในวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เวลา 06.38 น. ก่อนที่พบร่างหลวงปู่พูนมรณภาพถูกเผาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา

พบเขม่าควันในหลอดลม ยังไม่ฟันธงปมมรณภาพ
ส่วนความคืบหน้าของคดี วานนี้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อเก็บหลักฐานจากเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ เพื่อนำไปประกอบคดี โดย พลตำรวจตรี สารนัย คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยผลชันสูตรสรีรสังขารหลวงปู่ว่า เบื้องต้น พบเขม่าควันไฟในหลอดลมและปอด บ่งบอกว่า หลวงปู่พูน มรณภาพในกองเพลิง แต่ก่อนเสียชีวิต เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต้องนำหลักฐานอื่นมาประกอบ

จากผลชันสูตรไม่พบร่องรอยมีด ไม่มีร่องรอยเลือด แต่หน้าผากมีรอยช้ำนิดหน่อย แต่ไม่เป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต ส่วนดินจุดพบศพ เจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจสอบ ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันหรือชี้ชัดได้ว่า หลวงปู่มรณภาพจากสาเหตุใด