เช้านี้ที่หมอชิต - สลด เจ้าอาวาสเขียนจดหมายลาตาย ก่อนกระโดดสระน้ำประปาหลังวัด มรณภาพ คาดสาเหตุอาจมาจากปัญหาเรื่องเงินกองทุนในวัด
เจ้าอาวาสเขียนจดหมายลาตาย ก่อนกระโดดสระมรณภาพ
วานนี้ (3 มี.ค.) ตำรวจ สภ.เกาะคา จ.ลำปาง พร้อมคณะแพทย์และนักประดาน้ำ กู้ภัยสว่างนครลำปาง ไปตรวจสอบที่สระน้ำหลังวัดไหล่หินหลวง หมู่ 2 ตำบลไหล่หิน อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง หลังรับแจ้งว่ามีพระกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย
ที่เกิดเหตุเป็นสระเก็บน้ำประปา ลึกประมาณ 6 เมตร เจ้าหน้าที่ลงไปงมหาประมาณ 5 นาที จึงพบศพพระครูสังฆรักษ์ กฤษณพงศ์ คำสม หรือ "พระครูหมู" อายุ 32 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดไหล่หินหลวง สภาพศพเริ่มแข็ง ร่างกายยังห่มจีวรพระอยู่ จึงนำศพขึ้นมา ให้แพทย์ชันสูตร
สอบถามชาวบ้านทราบว่า พระครูหมู ได้ออกจากกุฏิแล้วหายตัวไปตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา กระทั่งเช้าวานนี้ (3 มี.ค.) ชาวบ้านและพระในวัด ไปพบรองเท้าแตะ ของพระครูหมู วางอยู่ขอบสระน้ำจึงเกิดความสงสัย เมื่อเข้าไปตรวจสอบในกุฏิ พบจดหมายลาตายของพระครูหมู ระบุข้อความว่า "ขอให้จัดการศพ เผาด่วนที่สุด 1 วันเผา เงินที่เหลืออยู่ให้จัดการตามที่ค้างไว้เลย หมดหนทาง ขอโทษทุกคน มีคนบีบบังคับด้วย ขอโทษทุก ๆ คน ที่นับถือ" และจดหมายอีกฉบับ ระบุข้อความว่า "ขอโทษทุกท่าน ที่มายุ่งยากกับศพอาตมา ขอให้นำศพข้าพเจ้า ใส่เข้ากองฟืนธรรมดา ที่ข้าพเจ้าตายในครั้งนี้ ต้องไปอย่างปริศนา อย่าถามเรื่องราวย้อนหลัง ขอให้ช่วยกันสร้างวัดต่อไป ทรัพย์สินที่มีอยู่ให้พ่อด็อกเตอร์มาจัดการ ขายได้เท่าไร ให้นาย… 100,000 ของวัตถุมงคลที่เหลืออยู่ ให้นำออกบูชา ส่วนดาบให้ตกเป็นของ… ขอโทษทุกสิ่งอย่าง และให้อภัยในความประมาทของอาตมา เมื่อบวชพระสามเณร ขอให้ท่านผู้ใจบุญสานต่อด้วย อย่าเรียกชัณสูตรศพ ให้เผาใน 24 ชั่วโมง" ลงชื่อ พระครูสังฆรักษ์ กฤษณพงศ์
นอกจากนี้ยังพบว่า พระครูหมู ได้โพสต์เฟซบุ๊กที่เหมือนเป็นลาง ไว้ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือ วันวาเลนไทน์ ที่ผ่านมา พระครูหมู ได้โพสต์รูปดอกกุหลาบและรูปแม่ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว พร้อมข้อความว่า "ทางโน้นเดินทางไกลคงสบายดีนะ อีกไม่นานคงตามไป" ต่อมาวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พระครูหมู ก็โพสต์ข้อความที่เหมือนกับเป็นการสั่งลา โดยระบุ ว่า "ถ้าเป็นอะไรไป ขอให้ทุกคนช่วยแก้ไขและทำตามที่สั่งไว้…ขอให้ช่วยสุดความสามารถ"
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตุว่าการเสียชีวิตของรักษาการเจ้าอาวาสครั้งนี้ อาจจะมาจากปัญหาเรื่องเงินกองทุนภายในวัดก็เป็นไปได้ ซึ่งตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ขณะที่การสูญเสียในครั้งนี้ ก็ทำให้ญาติโยมที่ศรัทธาพระครูหมู ต่างก็ตกอยู่ในความโศกเศร้าไปตาม ๆ กัน
ชาวบ้านเศร้ารับศพ พระครูหมู เผยเจ้าตัวป่วยหลายโรค
ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำร่างพระครูหมู ออกจากโรงพยาบาลมาที่วัด มีชาวบ้านกว่า 100 คน มารอรับ ทันทีที่ร่างของพระครูหมูมาถึง ชาวบ้านได้มีการตีกลองและตีฆ้องดังระงมทั่ววัด ชาวบ้านบางคนถึงกับร้องไห้ออกมาก่อนที่จะนำร่างของพระครูหมู มาที่วิหารของเพื่อทำพิธีขอขมาและรดน้ำศพ
นายทรงศักดิ์ แก้วมูล อายุ 52 ปี ไวยาวัจกรของวัดนำผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่คาดว่าพระครูหมู จะเดินออกทางด้านหลังกุฎิเพื่อไปฆ่าตัวตายที่สระน้ำ พร้อมเปิดเผยว่า พระครูหมู เป็นพระนักพัฒนา ที่ผ่านมาชาวบ้านได้นิมนต์ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่งนี้ แต่ท่านมีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งโรคหัวใจ โรคเลือดและยังแพ้อาหารประเภทโปรตีน และท่านเองอาจจะไปหยิบยืมเงินจากคนรู้จักมารักษาตัว เพราะในแต่ละครั้งต้องใช้จ่ายในการรักษาจำนวนมาก อาจจะทำให้ท่านเกิดความเครียด ยืนยันว่าท่านไม่เคยแตะต้องเงินของวัดเลย เงินทุกบาทที่เกี่ยวกับวัด มอบให้กรรมการวัดดูแลเก็บรักษาทั้งหมด
นอกจากนี้พระครูหมู ยังเคยบอกว่าหากมีบุญก็จะขอตายในวันที่ครูบาขาวปี๋ ซึ่งเป็นพระเกจิชื่อดังในอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน มรณภาพ คือวันที่ 3 มีนาคม เพราะท่านนับถือมาก แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าท่านจะเลือกฆ่าตัวตายในวันนี้ ส่วนในเรื่องที่ท่านสั่งเสียว่าให้เผาภายใน 24 ชั่วโมงนั้น ทางชาวบ้านและผู้นำชุมชนหารือกันแล้วคงจะเผาร่างท่านในวันที่ 14 มีนาคม นี้เพราะชาวบ้านอยากจัดพิธีศพของท่านให้สมเกียรติ
