“ภูมิธรรม” เผย “เซเนกัล” ขอซื้อข้าวไทย "พาณิชย์" เสนอขาย ข้าวโพด เนื้อสัตว์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ่วงไปด้วย

View icon 110
วันที่ 2 มี.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ผลสำเร็จประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก “ภูมิธรรม” เผยไทยเนื้อหอม หลายประเทศสนใจสินค้า จ่อรับออเดอร์เพียบ

วันนี้ (2มี.ค.67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยความสำเร็จหลังเข้าร่วมประชุมติดตามผลการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 13 (The WTO's 13th Ministerial Conference: MC13) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)

โดยมีโอกาสได้พบกับ Mr. Abdou Karim FOFANA รัฐมนตรีกระทรวงการค้า และวิสาหกิจขนาดกลางและเล็กของสาธารณรัฐเซเนกัล ที่ขอเข้าพบเพราะมีความสนใจที่จะขอซื้อข้าวจากไทยในปีนี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงทางด้านอาหารภายในประเทศ   เนื่องจากเซเนกัลก็ยังไม่สามารถเพาะปลูกข้าวให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภคข้าวภายในประเทศ และ กังวลผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนิโญ ขณะที่ ฝ่ายไทยได้เสนอให้เซเนกัลนำเข้าสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมของไทย ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้เชิญรัฐมนตรีการค้าฯ ของเซเนกัลเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX ANUGA 2024 ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ไทย จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานีด้วย

ทั้งนี้ เซเนกัล เป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทยมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี โดยเฉพาะสินค้าข้าว ซึ่งในปี 2565 – 2566 ติดกลุ่ม 1 ใน 10 ของตลาดส่งออกข้าวไทย โดยไทยส่งออกข้าวไปเซเนกัลประมาณกว่า 200,000 ตัน/ปี ซึ่งประมาณกว่าร้อยละ 80 เป็นข้าวหอมมะลิไทย และในปี 2567 (ม.ค. - ก.พ.) ไทยส่งออกข้าวไปเซเนกัลประมาณกว่า 60,000 ตัน ทั้งนี้ ในระหว่างการพบหารือกับรัฐมนตรีการค้าฯ ของเซเนกัล ได้ขอให้เซเนกัลสนับสนุนนำเข้าข้าวไทยเพิ่มขึ้น และแสดงความพร้อมที่จะเป็นแหล่งนำเข้าข้าว และส่งมอบข้าวที่มีคุณภาพมาตรฐานให้เซเนกัลในทุกสถานการณ์ตลอดไปด้วย

นอกจากนี้ แม้ว่าในช่วงการประชุม MC 13 จะเกิดกรณีที่อินเดียเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อถ้อยแถลงและเจตจำนงค์ของไทยในบางช่วง แต่ผมได้ใช้โอกาสที่เดินทางเยือนกรุงอาบูดาบีนี้ ประสานทำความเข้าใจกับอินเดียจนสถานกาณ์คลี่คลายลงด้วยดี โดยผมได้เน้นย้ำถึงความตั้งใจจริงของไทยที่ต้องการยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น