สนามข่าว 7 สี - อัยการสูงสุด สั่งฟ้อง "บิ๊กอ๊อด" พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และพวก ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนไปช่วยเหลือเปลี่ยนพยานหลักฐานด้านความเร็วรถยนต์ ในคดี "บอส อยู่วิทยา" ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต
นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงถึงกรณีที่ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนความเร็วรถยนต์ในคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 ว่า อัยการสูงสุด ได้พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้ว และมีคำสั่งรับดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 คน ตามมติ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มแรก มี พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง, พลตำรวจตรี ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข, พันตำรวจเอก วิรดล ทับทิมดี, นายเนตร นาคสุข ในฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
กลุ่มที่ 2 มี นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม, นายธนิต บัวเขียว, นายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร และ รองศาสตราจารย์ สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ในฐานความผิด เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ
อัยการสูงสุด มอบหมายให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตเป็นผู้ฟ้อง และดำเนินคดีผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 คน และให้แจ้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบ เพื่อให้ดำเนินการส่งผู้ถูกกล่าวหาไปสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เพื่อฟ้องคดีภายในอายุความตามกฎหมายต่อไป
สำหรับคำสั่งของอัยการสูงสุดครั้งนี้ ถือว่าเสร็จสิ้นการสั่งคดีตามขั้นตอนกฎหมาย ต่อไปจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาล
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พลตำรวจเอก สมยศ ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่มีส่วนช่วยเหลือให้ นายวรยุทธ พ้นผิด พร้อมปฏิเสธการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
นอกจาก 8 คนนี้แล้ว ยังมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องอีก ทั้งตำรวจ ทหาร พนักงานอัยการ และข้าราชการระดับอื่น ๆ ในจำนวนนี้มีทั้งผู้ที่ถูกกันตัวไว้เป็นพยาน ถูกดำเนินคดีตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ถูกส่งให้ผู้มีอำนาจพิจารณาถอดถอนจากตำแหน่ง และผู้ที่ไม่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด
คดีนี้เริ่มมีความไม่ชอบมาพากลในกระบวนการยุติธรรม หลังจากที่ นายวรยุทธ ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังอัยการสูงสุด และ กมธ.กฎหมายฯ สนช.2557 หลายครั้ง จนอัยการสูงสุดมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งต่อมาก็มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถที่ นายวรยุทธ ขับไม่ให้เกินกว่ากฎหมายกำหนด แล้วก็ปล่อยเวลายืดเยื้อจนทำให้หลายข้อหาต้องหมดอายุความไป
วันที่ 3 กันยายน 2556 ข้อหาขับรถโดยประมาท และข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด หมดอายุความ
ปี 2557-2559 นายวรยุทธ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด และ กมธ.กฎหมายฯ สนช.2557 หลายครั้ง จนอัยการสูงสุดมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม
วันที่ 3 กันยายน 2560 ข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย และไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ และ คดีเสพโคเคน ขาดอายุความ
ต่อมา นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด พิจารณาผลการสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว คดีไม่มีปัญหาที่จะต้องพิจารณา
วันที่ 24 กรกฎาคม 2563 อัยการสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา
ต่อมาตำรวจไม่ได้ทำความเห็นแย้งไปยังอัยการที่สั่งไม่ฟ้องข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ปัจจุบันคดีของ นายวรยุทธ จึงเหลืออยู่เพียงข้อหาเดียว คือ ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จะขาดอายุความในวันที่ 3 กันยายน ปี 2570
