เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อคืนที่ลพบุรี เกิดเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนเสาไฟฟ้า พอตรวจค้นรถพบปืน พร้อมเครื่องกระสุน จึงทราบว่าเป็นรถของมือปืนที่เพิ่งบุกยิงอริ
ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือ นายบุญชู อายุ 47 ปี หลังประสบเหตุขับรถกระบะเสียหลักเฉี่ยวชนเสาไฟฟ้าจนรถพลิกคว่ำ บนถนนพหลโยธิน 1 ขาเข้าตัวเมืองลพบุรี ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช
พอตรวจสอบในรถ กลับพบปืนลูกโม่ .38 จำนวน 1 กระบอก, กระสุน 23 นัด และปลอกกระสุน 3 ปลอก ซึ่งระหว่างนั้น ตำรวจ สภ.โคกสำโรง วิทยุแจ้งว่า ผู้ประสบเหตุเป็นมือปืนที่เพิ่งยิงคนบาดเจ็บ และให้ไปอายัดตัวที่โรงพยาบาลทันที แต่ปรากฏว่า ผู้ก่อเหตุหลบหนีไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตำรวจใช้เวลา 20 นาที จับกุมผู้ก่อเหตุได้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อไม่ไกลจากโรงพยาบาล ก่อนคุมตัวกลับไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล พร้อมสอบปากคำ
สอบสวนทราบว่า เมื่อช่วงหัวค่ำผู้ก่อเหตุได้จ่อยิง นายธนัส อายุ 49 ปี 3 นัด ในเขตเทศบาลตำบลโคกสำโรง ซึ่งผู้ถูกยิงมีแผลเป็นรูกระสุน 3 นัด ที่แผ่นหลัง แต่หัวกระสุนไม่ทะลุ และเดินขึ้นรถกู้ภัยไปโรงพยาบาลเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับรถหนีข้ามเขตไปทางอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี แล้วไปเฉี่ยวชนรถคันอื่นเสียหาย กระทั่งขับรถมาด้วยความเร็ว 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงชนเสาไฟฟ้าพลิกคว่ำในตัวเมืองลพบุรี
ด้านผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ในสภาพคล้ายคนเมา บอกว่า ประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าขายอาหารตามสั่งในตลาดอำเภอบ้านหมี่มี นายธนัส ที่เปรียบเสมือนเป็นลูกพี่ ให้เช่าพื้นที่ขายของ แต่เมื่อ 6 เดือนก่อนได้เห็นภาพบาดตาบาดใจ ระหว่างเมียของตนเองกับ นายธนัส จึงแค้นฝังใจก่อเหตุยิง นายธนัส
พนักงานสอบสวน สภ.โคกสำโรง อายัดตัวนายบุญชู ไปดำเนินคดีฐานพยายามฆ่า, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ , ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นและทรัพย์สินราชการเสียหาย และข้อหาเมาแล้วขับ
