ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ มือเผานั่งยางเครียด สาบานผ่านลูกกรง ยืนยันไม่ได้ฆ่า ไม่ได้คบกับเป็นสามีภรรยา

View icon 328
วันที่ 26 ก.พ. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
คืบหน้าเผานั่งยางในบ่อขยะ ที่ จ.ขอนแก่น ล่าสุด ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเร่งสอบสวนขยายผล ขณะที่ ผู้ต้องหาเครียด สาบานผ่านลูกกรง ยืนยันไม่ได้ฆ่า ไม่ได้คบกับเป็นสามีภรรยา รับมีผู้ชายเป็นเสี่ยขายอะไหล่เตาแก๊สมีครอบครัวแล้วมาดูแล โดยที่ผู้ตายและครอบครัวรับรู้ทุกคน

คืบหน้าเผานั่งยางในบ่อขยะ ที่ จ.ขอนแก่น  หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจ สภ.แวงน้อย ร่วมกันจับกุม น.ส.ไก่ อายุ 39 ปี ชาว ต.ละหานนา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น  ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดี ลักทรัพย์หรือรับของโจร ช่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย  เพราะก่อเหตุเผานั่งยาง นางสาว เป้ อายุ 47 ปี ชาว ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการนั้น

หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวน นางสาวไก่ รับสารภาพว่า ไม่ได้ฆ่า แต่ในช่วงที่พา นส.เป้ กลับไปดูบ้านที่จ.สมุทรปราการนั้น รับประทานข้าวเที่ยงแล้ว นส.เป้ เกิดสำลักอาหารแล้วหมดสติ สิ้นใจตาย จึงห่อศพกลับมาที่บ้าน โดยที่ไม่ได้บอกพ่อแม่แต่อย่างใด  กลัวความผิดจึงเผานั่งยางศพเป้ ในบ่อขยะ และยืนยันว่า ทำคนเดียว

ขณะที่พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ รองผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.สมมาตย์ มั่งไธสง ผกก.สภ.แวงน้อย พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น ต่างก็ยังไม่เชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังไม่คลี่คลาย เพราะหลังจากส่งโครงกระดูกคนตายที่พบในบ่อขยะให้แพทย์ นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ ชันสูตรศพและศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 พิสูจน์หาอัตลักษณ์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันได้ว่าเป็นเพศหญิง อายุประมาณ 35 ปี สูงประมาณ 160 ซม.และมีบาดแผลถูกของมีคมที่แผนหลัง  ซึ่งต้องทำการสืบสวนขยายผลต่อ หากพบบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มและดำเนินคดีตามกฏหมายกับบุคคลรายดังกล่าว

ล่าสุด วันนี้ 26 กุมภาพันธ์ ที่ สภ.แวงน้อย น.ส.ไก่ อายุ 39 ปี ร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจขอพบสื่อมวลชน  ซึ่งจากการพูดคุยกับนางสาวไก่นั้น นางสาวไก่ ร่ำไห้ผ่านลูกกรง  กล่าวว่า คิดถึงพ่อกับแม่และลูกชาย  อยากให้เข้าไปช่วยดูแลพ่อแม่ เพราะแม่ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ ร่างกายไม่แข็งแรง ส่วนพ่อป่วยเบาหวาน ความดันสูงและไต  ต้องฟอกไตที่บ้าน วันละ 4 ครั้ง หลังถูกตำรวจจับ ไม่มีคนดูแลพ่อแม่และลูกชาย จึงอยากขอความช่วยเหลือจากผู้มีใจบุญกุศล ช่วยดูแลครอบครัวให้ด้วย

นอกจากนี้ น.ส.ไก่ เปิดเผยถึงความสัมพันธ์ ของตัวเองกับ น.ส.เป้ ว่าในช่วงอายุประมาณ 32 ปี ทำมาค้าขาย ขายผักที่ตลาดเคหะทุ่งสองห้อง หลักสี่ ได้รู้จักกับ นส.เป้ ขณะนั้นอายุ 40 ปี มาทำความรู้จัก จากนั้นก็คบหากันเป็นแฟน อยู่ประมาณ 3 เดือน พี่ชายเสียชีวิต จึงต้องกลับมาดูแลพ่อแม่ที่บ้าน น.ส.เป้ จึงขอตามมาอยู่ด้วยที่บ้าน โดยบอกว่า ตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้อง ขอมาอยู่ด้วยและจะช่วยเลี้ยงดูครอบครัว จึงตัดสินใจมาอยู่ด้วยกันที่บ้านใน อ.แวงน้อย จากนั้นก็ช่วยกันทำมาหากิน และรับลูกของญาติพี่น้องมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม จนถึงปัจจุบัน

“เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ตนได้รู้จักกับเสี่ยกล้วย เจ้าของร้านขายอุปกรณ์แก๊สหุงต้ม ในพื้นที่ บางซื่อ กทม. ผ่านทางโซเชียล และมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งการพูดคุยและมีความสัมพันธ์กับเสี่ยกล้วยนั้น นส.เป้ รับรู้มาตลอด แต่ไม่เคยมีปัญหากัน  เสี่ยกล้วยได้ไถ่ถอนที่ดินบ้านที่ติดจำนองให้ตนและครอบครัว จะได้อาศัยอยู่โดยไม่มีหนี้สิน  นอกจากนี้ หลังจากเผานั่งยาง น.ส.เป้ เมื่อเย็นวันที่ 13 ก.พ.2567 แล้วนั้น วันที่ 14 กพ.2567 ได้ขับรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ทะเบียน 1กค-4384 กรุงเทพมหานคร เข้าไปหาเสี่ยกล้วยที่กรุงเทพฯ เพื่อพูดคุยในเรื่องของการซ่อมแซมบ้านหลังเก่า ที่อยู่ในหมู่บ้าน เพราะบ้านที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่นั้น หน้าฝนน้ำท่วม ไม่มีที่อยู่ เสี่ยจึงจะซ่อมบ้านหลังเก่าให้ หลังจากพบเจอกันแล้ว ก็กลับมาที่บ้าน และมาทำความสะอาดบ้าน รอเสี่ยโอนเงินมาให้ จะได้ติดต่อว่าจ้างช่างมาซ่อมบ้าน แต่ยังไม่ได้ทำ ก็ถูกตำรวจจับได้ก่อน  จึงเป็นห่วงพ่อแม่มาก อยากให้มีคนใจบุญมาดูแลพ่อแม่ และอยากติดต่อกับเสี่ยกล้วย เผื่อจะช่วยพ่อกับแม่ได้”

ในขณะที่ พ.ต.อ.สมมาตย์ มั่งไธสง ผกก.สภ.แวงน้อย  กล่าวว่า ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่า น.ส.เป้ สิ้นใจตายเอง จึงต้องสืบสวนขยายผลในประเด็นดังกล่าวต่อไปอีก  หากการสืบสวน เชื่อมโยงถึงใครก็จะเรียกมาสอบสวน หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำความผิด ก็จะดำเนินการตามกฏหมาย ในขณะเดียวกันช่วงนี้วันหยุดติดต่อกันหลายวัน จึงยังต้องควบคุมตัวผู้ต้องหาต่อ ถึงวันที่ศาลเปิดก็จะส่งตัวผู้ต้องหาฝากขังตามขั้นตอนของกฏหมาย

ด้าน นาง ประยูร อายุ 63 ปี ชาว ต.ละหานนา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น นำอาหารมาเยี่ยม น.ส.ไก่ ซึ่งเป็นเครือญาติกันอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน พร้อมกันนี้ยังได้ขอพบกับสื่อมวลชน เพื่อขอแก้ข่าวในเรื่องที่มีหลายสำนักข่าวนำภาพของลูกสะใภ้ไปออกอากาศ โดยระบุว่า เป็น น.ส.ไก่ จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้รับความเสียหาย ซึ่งจะเป็นภาพของหญยิงสาวใส่เสื้อสีชมพู หน้าตาคล้ายกับ น.ส.ไก่ โดยเป็นภาพช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ลูกสะใภ้กลับมาและสังสรรค์กับ น.ส.ไก่ ทำให้มีภาพร่วมเฟรมกันและมีการแท็กหากันในโซเชียล จนนักข่าวเข้าใจว่าเป็น น.ส.ไก่ แต่จริงๆแล้วเป็นลูกสะใภ้ของแม่ จึงอยากให้ผู้สื่อข่าวช่วยออกข่าวแก้ให้กับลูกสะใภ้ของแม่ด้วย

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวยังได้พูดคุยกับนางประยูรในเรื่องของ เสี่ยร้านอุปกรณ์แก๊สหุงต้ม ซึ่งนางประยูรบอกว่า ส่วนตัวไม่ค่อยรู้เรื่องกับครอบครัวไก่มากนัก แต่เท่าที่ทราบที่คุยกับ รู้ว่าทั้งไก่ ทั้งเป้ และเสี่ยที่มีอายุหน่อย มีการพูดคุยกันในโซเชียล และมีการนัดมาหากันที่บ้านช่วงเกี่ยวข้าวที่ผ่านมา แต่ตนเองก็ไม่ได้ไปหาไก่ ทราบจากญาติๆกันเท่านั้นว่ามา แต่ไม่เคยเห็น ส่วนการคบหากันนั้นไม่รู้ด้วย เพราะส่วนตัวไม่ได้ออกไปสุงสิงกับใคร ทราบแค่ว่ามีคนมีอายุอยู่ กทม. มาเล่นด้วย และเป้ ก็รู้จักคบกันทั้ง 3 คน แต่ทราบเพิ่งว่าอายุประมาณ 60 ปี ไม่เคยเห็นพาลูกพาเมียมาด้วยแต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง