หมึก บอนไซ ชี้ถ้ารถอดีตนายอำเภอไม่ตกสะพาน คงเป็นตัวเองที่ตาย

View icon 6.2K
วันที่ 26 ก.พ. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“หมึก บอนไซ” เล่านาทีชีวิต! ชี้หากฝั่งอดีตนายอำเภอรถไม่ตกสะพาน คงเป็นตัวเองที่ต้องตาย เตรียมปรึกษาทนายคดีพยายามฆ่า พร้อมเรียกค่าเสียหายรถที่ถูกชน 6 ล้านบาท

26 ก.พ. 67 จากกรณีอดีตนายอำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ที่ขับชนรถของ "หมึก บอนไซ" จนพุ่งตกลงไปในแม่น้ำแม่กลอง พ่อและภรรยาของอดีตนายอำเภอมายอ จมน้ำเสียชีวิต นั้น

ด้าน นายสิทธิศักดิ์ เสียงหวาน อายุ 69 ปี หรือ “หมึก บอนไซ” เล่านาทีชีวิตกับทีมข่าวช่อง 7HD ว่า ขณะเกิดเหตุตนได้ขับรถมาตามทางปกติเมื่อมาถึงคอสะพานได้จอดรอคิวเพื่อขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำเนื่องจากถนนเป็นคอขวด แต่ละระหว่างที่กำลังต่อคิวอยู่นั้นจู่ ๆ รถของคู่กรณีได้ขับมาพุ่งชนอย่างแรง จนรถของตนเองหมุนและไถลไปไกล ตอนนั้นตนตกใจและทำอะไรไม่ถูก และเห็นรถของคู่กรณีขับถอยหลัง จึงคิดว่าน่าจะถอยเพื่อลงมาเคลียร์กัน แต่ตนยังไม่ทันได้ลงจากรถ คู่กรณีได้ขับพุ่งชนอีกครั้ง ตนไม่สามารถขับหนีได้เนื่องจากล้อหน้าได้รับความเสียหาย จากนั้นคู่กรณียังไม่หยุด ขับรถพุ่งมาชนเป็นรอบที่ 3 ก่อนที่รถคู่กรณีจะพลัดตกสะพานลงไป

หมึก บอนไซ บอกว่า รู้สึกเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนที่ต้องจากไป ทั้ง ๆ ที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่ทุกอย่างเป็นผลจากอดีตนายอำเภอที่เป็นคนกระทำ และเวรกรรมได้ตามทันอย่างทันที “วันนี้หากรถของคู่กรณีไม่พลัดตกสะพาน อาจเป็นรถของตนเองที่พลัดตกลงไป และตนอาจไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้ อาจจะตายไปแล้ว เพราะจากพฤติการณ์น่าจะถอยมาชนอีกหลายครั้ง”

หมึก บอนไซ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีปัญหากับอดีตนายอำเภอ ไม่ได้ขับรถปาดหน้า ไม่ได้ขับรถบีบแตรไล่ หรือมีปัญหาหรือรู้จักกันก่อนหน้านี้ และก็ไม่เข้าใจว่าเขาไปโกรธหรือโมโหอะไรมา ถึงมาลงที่รถของตน แต่เชื่อว่าน่าจะมีการทะเลาะกันภายในรถ

วันนี้รถของตนได้รับความเสียหายมูลค่าเหยียบ 6 ล้านบาท ตนขอยกรถคันดังกล่าว ซึ่งเป็นลูกรักของตนให้กับอดีตนายอำเภอ และขอให้นายอำเภอชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดมาให้ ส่วนการดำเนินคดีอยู่ระหว่างปรึกษาทนายในข้อหาพยายามฆ่า แต่หากสามารถเจรจากันได้ตนก็ไม่อยากดำเนินคดี เพราะถือว่าอดีตนายอำเภอได้รับความสูญเสีย จากการจากไปของคนในครอบครัวถึง 2 คน อย่างไม่มีวันหวนกลับ และเป็นตราบาปของอดีตนายอำเภอ ไปตลอดชีวิต ว่า สาเหตุในครั้งนี้ ต้นเหตุมาจากอดีตนายอำเภอ ที่ใจร้อนและไม่ควบคุมสติอารมณ์

ทั้งนี้ ตนอายุ 70 ปีแล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ถูกรถชน ที่ผ่านมาขับรถใจเย็นมาโดยตลอด และไม่เคยขับรถไปชนใคร จึงอยากขอให้เป็นบทเรียนกับสังคมว่าทำอะไรขอให้ย้ำคิดให้ดีดี เพราะหากเกิดความสูญเสียมาแล้วไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีก