เจาะประเด็นข่าว 7HD - เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ครอบครัวของนุ่นได้จัดงานฌาปนกิจศพ ที่บ้านเกิดในอำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้มาร่วมงาน ขณะที่ครอบครัวอยากให้ปล่อยให้เป็นเรื่องของคดี ส่วนคนทางบ้านพร้อมใจกันส่งนุ่น เป็นครั้งสุดท้าย ต้องทำใจ เพราะเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้
บรรยากาศงานฌาปนกิจศพของ นางสาวชลลดา หรือ นุ่น อายุ 27 ปี เต็มไปด้วยความโศกเศร้าของญาติ และผู้มาร่วมงาน ระหว่างการทำพิธีที่วัดบ้านดอนประทาย ตำบลม่วงสามสิบ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้เสียชีวิต เมื่อช่วง 14.00 น. ที่ผ่านมา โดยพิธีฌาปนกิจก็ทำขึ้นด้วยความเรียบง่าย มีคนในหมู่บ้าน และบรรดาเพื่อน ๆ มาร่วมงาน และแสดงความเสียใจ
ขณะที่บรรดาเพื่อนสนิท ได้เดินทางมาร่วมไว้อาลัยนุ่น และขอประณามการกระทำของ นายศิริชัย หรือ ทอย ที่ลงมือฆ่าอำพรางภรรยาอย่างโหดเหี้ยม พร้อมขอให้ศาล ลงโทษประหารชีวิตผู้ต้องหา เพราะถือเป็นการกระทำที่เกินจะให้อภัย
ส่วนพ่อของนุ่น ก็พยายามทำหน้าที่ของพ่อในวาระสุดท้ายของลูกสาวให้เต็มที่ ขอให้เรื่องคดีเป็นเรื่องของการตัดสินของชั้นศาล ส่วนตัวได้นำศพลูกมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ก็พอใจมากแล้ว แม้ว่าจะยังเสียใจ แต่ในเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้
ก่อนหน้านี้ตำรวจได้ควบคุมตัว นายศิริชัย หรือ ทอย สามีของนุ่น ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดก่อเหตุทำร้ายภรรยา ก่อนใช้ของแข็งทุบศีรษะ ในจังหวัดนนทบุรี และจุดที่นำศพเผาอำพรางที่จังหวัดปราจีนบุรี
โดยผู้ต้องหายอมรับว่า ฆ่าภรรยาก่อนนำศพไปเผาอำพราง อ้างเมาสุรา และโมโหที่ฝ่ายหญิงพูดถึงแฟนเก่า ถูกแจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ ก่อนควบคุมตัวส่งฟ้องศาล
บรรยากาศงานฌาปนกิจศพของ นางสาวชลลดา หรือ นุ่น อายุ 27 ปี เต็มไปด้วยความโศกเศร้าของญาติ และผู้มาร่วมงาน ระหว่างการทำพิธีที่วัดบ้านดอนประทาย ตำบลม่วงสามสิบ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้เสียชีวิต เมื่อช่วง 14.00 น. ที่ผ่านมา โดยพิธีฌาปนกิจก็ทำขึ้นด้วยความเรียบง่าย มีคนในหมู่บ้าน และบรรดาเพื่อน ๆ มาร่วมงาน และแสดงความเสียใจ
ขณะที่บรรดาเพื่อนสนิท ได้เดินทางมาร่วมไว้อาลัยนุ่น และขอประณามการกระทำของ นายศิริชัย หรือ ทอย ที่ลงมือฆ่าอำพรางภรรยาอย่างโหดเหี้ยม พร้อมขอให้ศาล ลงโทษประหารชีวิตผู้ต้องหา เพราะถือเป็นการกระทำที่เกินจะให้อภัย
ส่วนพ่อของนุ่น ก็พยายามทำหน้าที่ของพ่อในวาระสุดท้ายของลูกสาวให้เต็มที่ ขอให้เรื่องคดีเป็นเรื่องของการตัดสินของชั้นศาล ส่วนตัวได้นำศพลูกมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ก็พอใจมากแล้ว แม้ว่าจะยังเสียใจ แต่ในเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้
ก่อนหน้านี้ตำรวจได้ควบคุมตัว นายศิริชัย หรือ ทอย สามีของนุ่น ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดก่อเหตุทำร้ายภรรยา ก่อนใช้ของแข็งทุบศีรษะ ในจังหวัดนนทบุรี และจุดที่นำศพเผาอำพรางที่จังหวัดปราจีนบุรี
โดยผู้ต้องหายอมรับว่า ฆ่าภรรยาก่อนนำศพไปเผาอำพราง อ้างเมาสุรา และโมโหที่ฝ่ายหญิงพูดถึงแฟนเก่า ถูกแจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ ก่อนควบคุมตัวส่งฟ้องศาล
