สุดยื้อ ! มะเร็งปอดพรากชีวิต พ.ต.ต.รุ่งคุณ สารวัตรผู้ต่อสู้และเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ทิ้งข้อความสุดท้ายที่ยังเขียนไม่เสร็จ ตอน โลกคัดคนดี (ออก)
พ.ต.ต.รุ่งคุณ จันทโชติ สารวัตร(สอบสวน)กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ อีก 1 บุคคลที่ต่อสู้กับโรคมะเร็ง ในช่วงวัยที่ยังน้อย ก่อนหน้านี้ได้โพสต์บอกเล่าอาการ และการต่อสู้ รักษาโรคมะเร็งของตนเอง
ล่าสุดวันนี้ (20 ก.พ.67) มีรายงานว่า พ.ต.ต.รุ่งคุณ จันทโชติ จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งปอด
ในเฟซบุ๊กของ พ.ต.ต.รุ่งคุณ ได้โพสต์ข้อความสุดท้ายไว้เมื่อเวลา 09.19 น. เรื่อง เดอะ ซิกเซ้นส์ ตอน : โลกคัดคนดี(ออก)
ข้อความระบุว่า ตั้งแต่ผมเริ่มป่วย จนถึงตอนนี้ก็ 1ปีครึ่งแล้ว มันทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า น้อยคนนักในวัยเดียวกัน จะได้ประสบพบเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้
มันเหมือนผมกำลังจะมีชีวิตที่สวยงาม มีอนาคตที่สดใส แต่ก็เหมือนมีรถม้าขบวนใหญ่ ได้วิ่งชนผมอย่างจัง ทำให้ผมกระเด็นไปไกลแสนไกล จนมาตื่นขึ้นในอีกโลกหนึ่ง ซึ่งมันเหมือนกับเป็นอีกมิตินึงเลย มันเป็นอีกเส้นทางหนึ่ง ที่วิ่งคู่ขนานไปกับโลก ผมได้เห็นภาพจากท็อปวิว ภาพอันเกิดจากการสวดมนต์ นั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจ มันเกิดเป็นการหยุดนิ่งชั่วขณะ ผมรู้สึกว่า “จิตของผมมันละเอียดขึ้น” ทำให้เกิดความเชื่อมโยงเป็นองค์ความรู้อะไรหลายๆ อย่าง
ใช่ครับ ผมคือคนที่ถูกเลือก จริงๆ แล้วคนอื่นที่ประสบพบเจอแบบผม ก็ถูกเลือกเช่นกัน แต่น้อยคนนักที่จะออกมาสื่อสารได้ เพราะลำพังที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายนี้ก็ปางตายกันแล้ว มาครับ มาฟังนิทานที่อิงเรื่องจริงเป็นหลักกัน ว่าเค้าฝากผมมาสื่อสารว่าอะไร
ตั้งแต่ฟ้าผ่าครั้งใหญ่ในป่าแห่งนั้นในยุคดึกดำบรรพ์ มีสัตว์ล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่เหตุการณ์นั้นทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ นั่นคือบรรดาสัตว์ที่ถูกฟ้าผ่า กลับส่งกลิ่มหอมไปทั่ว อันเกิดจากการเนื้อสัตว์ไหม้เกรียม มนุษย์ได้ลิ้มลองเนื้อเหล่าเนื้อ กินกันอย่างเอร็ดอร่อย และนั่นก็นำมาสู่..
บทความที่ยังเขียนไม่เสร็จ
รุ่งคุณ จันทโชติ
สำหรับพ.ต.ต.รุ่งคุณ จันทโชติ พบว่าตนเองป่วยด้วยโรคมะเร็งเมื่อเดือนเมษายน 2565 ณ ขณะนั้น สารวัตรรุ่ง อายุ 32 ปี เล่าว่า สุขภาพร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกายมาตลอด แต่ช่วงเดือนเมษายน เริ่มมีอาการปวดแขนขวา และสีผิวเริ่มเปลี่ยน ไปหาหมอมาหลายที่ ได้แต่ยาแก้อักเสบมากิน อาการยังไม่ดีขึ้น
สารวัตรรุ่งเริ่มมีอาการบวมที่คอ จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลตำรวจ นอนอยู่โรงพยาบาล กินยาแก้อักเสบ 6 วัน ไม่ดีขึ้น เลยเจาะชิ้นเนื้อที่คอไปตรวจ หมอแจ้งว่า เป็นมะเร็งปอดระยะลุกลามไปต่อมน้ำเหลือง เมื่อทราบว่าตนเองป่วย สารวัตรรุ่ง ตั้งสติได้เร็ว ไม่ท้อและคิดหาทางแก้ไข เพราะเชื่อว่ามันต้องหาย ทั้งต้องทำเคมีบำบัด ฉายแสง ซึ่งเป็นการรักษาที่ทรมาน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ แสบบริเวณหลอดอาหาร แต่ก็อดทน ต่อสู้ และคิดบวก ไม่หมกตัวอยู่แต่ในห้อง แต่สร้างกำลังกายและกำลังใจให้ตัวเอง
อีกทั้ง สารวัตรรุ่ง ยังเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกคนรียตั้งสติ และรับมือ เพราะ ต่อให้ยาดีแค่ไหน ถ้าใจไม่ได้ ยารักษาก็ไม่ได้ผล
