หมอสะท้อนมุมมอง เมื่อได้ยินคนไข้บอกขอจากไปอย่างอร่อย

View icon 351
วันที่ 12 ก.พ. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กินไปเถอะยังไงก็ตาย ขอจากไปอย่างอร่อย หมอสะท้อนมุมมองที่ได้เห็นแม่หลายคนต้องนั่งเฝ้าลูกที่เมาจนเพ้อ ภรรยาหลายคนที่ต้องมาป้อนข้าว พลิกตัวให้สามีที่เป็นอัมพาต เพราะเป็นทั้งเบาหวาน ทั้งความดัน เวลาสุข สุขคนเดียว แต่ในวันที่เจ็บป่วย ลากเอาคนอื่นมาทุกข์ด้วย

ขอจากไปอย่างอร่อย วันนี้ (12 ก.พ.67) เพจเรื่องเล่าจากโรงพยาบาล ที่รวบรวมข้อมูลหลากหลายมุมมองจากความป่วยไข้ โดยคุณหมอได้สะท้อนความคิดเห็นเมื่อได้ยินคนไข้พูดประโยคที่ว่า “กินไปเถอะยังไงก็ตาย ขอจากไปอย่างอร่อย หมอสะท้อนมุมมองว่า ปกติ ”หมอ” เป็นหมอที่ค่อนข้างยืดหยุ่น เข้าใจดีว่าไลฟ์สไตล์ แต่ละคนต่างกัน และเข้าใจดีว่าความสุขของคนเราต่างกัน

คุณหมอ ยังระบุด้วยว่า คนดื่มเหล้าแต่ไม่มีปัญหาเรื่องตับ ไม่มีปัญหาเรื่องความดัน หมอก็ไม่เคยคิดว่า เป็นเรื่องผิดอะไร คนน้ำหนักตัวเยอะ แต่ไขมันดี ไม่มีเบาหวาน ตับยังดี หมอก็เพียงแค่บอกว่า ระวังหน่อยนะ แต่เมื่อไหร่ เริ่มมีปัญหา เบาหวานมาแล้วนะ ความดันตามมาติด ๆ ไขมันพอกตับก็มี แบบนี้หมอจึงจะบอกแนะนำทุกครั้ง

“กินไปเถอะ อย่างไรก็ตายอยู่ดี อาจเป็นประโยค กึ่งจริง กึ่งเล่น แต่หลายคนอาจคิดอย่างนั้นจริง ๆ มันเป็นความจริง ปฏิเสธไม่ได้ว่าสุดท้ายก็ตายอยู่ดี ในกรณีแบบนี้ คนตายไม่ค่อยเท่าไหร่ คนที่คิดแบบนี้จริงๆ อาจมีความสุขจนวันสุดท้าย เคยมีคนไข้ตับแข็ง อ้วกเป็นเลือด ช็อก รักษาเกือบไม่รอด กลับบ้านไป 1 สัปดาห์ ไปดื่มแล้วอ้วกเป็นเลือดมาอีก ครั้งนี้ช็อก แบบไม่ฟื้นจริงๆ หมอยังคิดว่า จิตสุดท้ายของเขาอาจจะกำลังเคลิ้ม กำลังฟินสุดๆ อยู่ก็ได้นะ"

แต่คนที่จะทุกข์ คือ คนข้างๆ คนในครอบครัว  หมอเห็นแม่หลายคน ต้องมานั่งเฝ้าลูกที่เมาจนเพ้อ เห็นภรรยาหลายคนแล้ว ที่ต้องมาป้อนข้าว เช็ดตัว พลิกตัวให้สามีที่เป็นอัมพาต เพราะเป็นทั้งเบาหวานทั้งความดัน ไม่เคยคิดจะคุม หมอเห็นลูกหลาน หลายครอบครัวแล้วไม่รู้เหมือนกันว่า ในบรรดาคนเหล่านี้เคยหวนคิดสักนิดไหมว่า ตอนที่ตัวเขามีความสุขนั้น สุขอยู่คนเดียวกินของที่ชอบ ปล่อยตัวอย่างมีความสุข แต่วันที่เจ็บป่วยนั้น เขาลากเอาคนอื่นมาทุกข์กับเขาด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง