เช้าข่าว 7 สี - ญาติของ "นายโอ๊ต" และ "นายกรานต์" ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม "นายใหม่" เตรียมยื่นคำร้องต่อศาลฯ ขอประกันตัว คาดว่าน่าจะใช้เหตุผลเดียวกับที่ญาติของ "นายแท๊ป" - "นิว" ยื่นประกันตัวไปก่อนหน้านี้ คือวงเงินประกัน 8 แสนบาท และขอติดกำไล EM ใช้ติดตามตัว
ความคืบหน้าคดีฆาตกรรม นายธนาสันต์ หรือ นายใหม่ นำศพไปทิ้งบริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา จนนำไปสู่การจับกุม "ช่างกิต" หรือ นายกิตติโชติ อายุ 37 ปี พร้อมพวก รวม 5 คน ก่อนจะถูกนำตัวนำมาฝากขังต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งญาติของได้พยายามยื่นเรื่องต่อศาลฯ
เพื่อขอประะกันตัวออกมาได้แล้ว 2 คน คือ นายปานเทพ หรือ แท๊ป อายุ 29 ปี และนางสาวอภิสรา หรือ นิว อายุ 22 ปี โดยศาลฯ ตีวงเงินประกันคนละ 8 แสนบาท พร้อมกับให้ติดกำไล EM ใช้ติดตามตัว
โดยวันนี้ ญาติของนายสุขสงกรานต์ หรือ กรานต์ อายุ 24 ปี และ นายนันทพัทธ์ หรือ โอ๊ต อายุ 23 ปี จะไปยื่นหลักทรัพย์ต่อศาลฯ เพื่อประกันตัวทั้ง 2 คนออกมาจากเรือนจำฯ เพื่อมาสู้คดีเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าน่าจะใช้วงเงินหลักทรัพย์เท่ากัน คือ 8 แสนบาท และขอติดกำไล EM เพื่อใช้ติดตามตัว เป็นหลักประกันต่อศาลฯ ว่าจะไม่หลบหนี
ขณะที่ทาง พลตำรวจตรี นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จะเข้าสอบปากคำ "ช่างกิต" ในเรือนจำฯ วันนี้ โดยเฉพาะเรื่องอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และมือถือของผู้ตายที่ตำรวจยังหาไม่พบ ไม่รู้ว่าถูกนำไปไว้ที่ไหน มูลเหตุจูงใจที่แท้จริง และวิธีการที่ลงมือก่อเหตุฆาตกรรม "นายใหม่" รวมทั้ง "สาวพร" เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่
แต่จากหลักฐานและพยานบุคคล จนถึงตอนนี้ ยังไม่พบว่า "สาวพร" รู้เห็นเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม "นายใหม่" สามีตนเอง ส่วนพยานและหลักฐานใหม่ที่ได้มา ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ระบุตัวละครที่ก่อเหตุได้ชัดเจน ซึ่งเชื่อว่าอาวุธปืนที่ก่อเหตุและโทรศัพท์มือถือ ไม่ได้มีการนำไปโยนทิ้งแต่อย่างใด
คดีนี้ทางตำรวจน่าจะสรุปคดีได้ในสัปดาห์นี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุและได้รับการประกันตัวออกมาต่อสู้คดี ตำรวจจะเรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจน และบางคนอาจถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ตามพยานหลักฐานที่ได้มา สำหรับสำนวนคดี พนักงานสอบสวนมีอำนาจผัดฟ้องฝากขัง ผู้ต้องหาได้ 7 ผัด หรือ 84 วัน ก่อนจะสรุปสำนวนพร้อมความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาส่งให้กับพนักงานอัยการฯ พิจารณามีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลฯ
