นายมลฑล ชายขาพิการโยกรถสามล้อ ยอมให้เจ้าอาวาสวัดราชบรรทม พาไปส่งที่กรมบัญชีกลาง และห้ามคนอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยว
วันนี้ ( 7 ก.พ.67) จากกรณี นายมณฑล เพ็ชรสังข์ อายุ 48 ปี ชายขาพิการใช้รถโยกสามล้อจาก จ.สุโขทัย เดินทางมาตามถนนสายเอเชียมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ไปที่กรมบัญชีกลาง เพื่อยืนยันตัวตน เนื่องจากถูกตัดสิทธิผู้พิการ และไม่มีบัตรประชาชน ถึงแม้หลายหน่วยงานจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เพราะไม่อยากให้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เกรงจะเกิดอันตราย แต่กลับถูกปฏิเสธการช่วยเหลือทุกด้าน ล่าสุดพบว่านายมลฑล มาพักอาศัยอยู่ ภายในวัดราชบรรทม ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
สอบถามพระครูชาครธรรมโสภณ หรือหลวงพ่อรำพึง เจ้าอาวาสวัดราชบรรทม เปิดเผยว่า หลังจากได้พูดคุย นายมณฑล ไม่ได้แสดงท่าทาง หรือกริยาอาการก้าวร้าวอะไร แต่ถ้าเป็นคนอื่นเข้าไปใกล้จะแสดงท่าทีหวาดระแวง พูดคุยกันดี ไม่เรียกร้องขอความช่วยเหลืออะไร ต้องการที่จะไปที่กรมบัญชีกลางเท่านั้น ที่เกิดความเครียด เพราะมีนักข่าวมาติดตามทำข่าว จึงได้เตือนสติว่า นักข่าวมาทำหน้าที่ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ทุกคนมีสิทธิ์เหมือนกันต้องเคารพกันและกัน ได้ตักเตือนให้นายมณฑลมีสติ เพราะการใช้อารมณ์ โวยวาย เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งกริยาที่เป็นอยู่ อาจจะเกิดจากผลพวงของการอุบัติเหตุที่ได้รับการระทบกระเทือน
เจ้าอาวาสจึงอาสาพาไปส่งที่กรุงเทพมหานคร ทำให้นายมณฑล ยอมให้ไปส่ง แต่คาดว่าจะไปส่งได้ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ เนื่องจากติดกิจนิมนต์บวชพระ และนายมลฑล ไม่ต้องการให้คนอื่นมาเกี่ยวข้อง ถ้าคนอื่นไปส่งจะไม่ไป ส่วนนายมณฑลตั้งใจจะเดินทางไปพรุ่งนี้ คงต้องแล้วแต่ความตั้งใจของ เพราะที่วัดไม่สามารถดูแลได้ โดยช่วงบ่ายนายมณฑลนอนพักผ่อนอยู่ภายในศาลาวัดไม่ออกมาพบใคร ซึ่งนำรถสามล้อเก็บเข้าไปด้านในด้วย และปิดประตูเหล็กลงไม่ให้ใครเข้าออก เนื่องจากต้องการความเป็นส่วนตัว
นอกจากนี้มีเพียงตำรวจของ สภ.นครหลวง ที่แวะเวียนมาดูแลตลอดทั้งวัน เนื่องจากเกรงว่าหากนายมณฑลโยกรถสามล้อเดินทางไปกรุงเทพฯจะเกิดอันตราย จึงแวะเวียนมาดู เพราะต้องดูแลความปลอดภัยไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
