สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ไล่สกัดจับรถขนแรงงานชาวบังกลาเทศ 10 คน หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ได้กลางถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าไปชายแดนไทย-มาเลเซีย ขณะที่คนขับรถรับสารภาพ ได้ค่าจ้าง 3,000 บาทต่อคน
นาทีที่ พันตำรวจโท พัฒนพงษ์ โรจนวานิชกิจ และพันตำรวจโท พงษ์ศิริ พิทักษ์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองสงขลา นำกำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสงขลา สะกดรอยตามรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซีวิค สีขาว หมวดทะเบียนกรุงเทพมหาคร 2 คัน ที่ขับผ่านแยกคูหา ขาล่องใต้ ที่ตำบล ควนรู อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา หลังสายข่าวแจ้งว่าเป็นรถขนแรงงานชาวบังกลาเทศหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย
โดยทันทีที่รถทั้ง 2 คัน ผ่านแยกคูหา ตำรวจก็ขับรถยนต์ ปิดหัวปิดท้าย ก่อนส่งสัญญาณให้รถเป้าหมายทั้ง 2 คัน หยุดรถ จากนั้นก็ลงไปตรวจสอบ
ซึ่งทันทีที่คนขับรถชื่อ นายสำฤทธิ์ อายุ 59 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร เปิดกระจกลงมาจากรถ ถึงกับหน้าถอดสี โดยในรถพบแรงงานชาวบังกลาเทศ 5 คน ขณะที่รถคันแรกที่ขับนำหน้า คนขับชื่อ นายยุธพงษ์ อายุ 47 ปี ในรถก็มีชาวบังกลาเทศ 5 คน เช่นกัน
จากนั้นนำตัวทั้งหมดไป สภ.รัตภูมิ ซึ่ง นายยุธพงษ์ ให้การว่า ได้รับการติดต่อจากชายคนหนึ่งทางกลุ่มไลน์ ให้ไปรับชาวบังกลาเทศ จากป่ารกร้างริมถนนที่จังหวัดฉะเชิงเทรา แล้วให้ไปส่งที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ตกลงค่าจ้าง 3,000 บาทต่อคน จากนั้นชักชวน นายสำฤทธิ์ ให้ไปรับชาวบังกลาเทศอีก 5 คน ที่จุดเดียวกัน แล้วไปนัดพบรถนำทาง 1 คัน ที่ริมถนนพระราม 2 จนมาถูกจับกุมได้
ด้านชาวบังกลาเทศ ให้การผ่านล่ามแปลภาษาว่า พวกตนได้จ่ายค่าเดินทางให้นายหน้าทั้งหมด 420,000 ธากา หรือเป็นเงินไทยประมาณ 120,000 บาท แล้วนั่งเครื่องบินไปลงเวียดนาม เดินทางเข้ากัมพูชา ก่อนลักลอบเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ ด้านจังหวัดสระแก้ว เมื่อคืนวันที่ 31 มกราคม 2567 จากนั้นมีรถกระบะ 2 คันไปรับ และเดินทางราว 3 ชั่วโมง ก็ถึงป่ารกร้าง ไม่นาน นายยุธพงษ์ และนายสำฤทธิ์ ก็ไปรับ
หลังสอบสวน พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา นายยุทธพงษ์ กับนายสำฤทธิ์ "ร่วมกันให้ที่พักพิงซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่"
ส่วนชาวบังกลาเทศ ถูกแจ้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
