แม่ตามคืบหน้าคดีลูกที่ฝากเลี้ยง ถูกทำร้ายร่างกาย

View icon 133
วันที่ 2 ก.พ. 2567
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - แม่ของเด็กชาย อายุ 2 ขวบ พาลูกไปฝากพี่เลี้ยงคนหนึ่ง ให้ช่วยดูแล 10 กว่าวัน พอไปรับลูกอีกที ปรากฎมีรอยแผลฟกช้ำเต็มหน้า เต็มแขน เริ่มไม่เชื่อว่าลูกประสบอุบัติเหตุ จึงขอให้ตำรวจตรวจสอบ แต่ผ่านมาหลายวันคดีไม่คืบหน้า จึงต้องขอให้ "กัน จอมพลัง" ช่วยเหลือ

ถ้านับร่องรอยแผลฟกช้ำที่ปรากฎบนตัวเด็ก มีไม่น้อยกว่า 9 จุด อย่างที่บริเวณศีรษะ มีรอยช้ำเป็นทางยาว คล้ายกับถูกไม้ตี หรืออะไรซักอย่างฟาดที่ใบหน้า แขนทั้ง 2 ข้าง เป็นรอยช้ำแดง ๆ ทั้งหลังมือ และแขน แล้วแบบนี้ จะให้เชื่อว่าเป็นการล้มของตัวเด็กเอง ไม่ใช่การถูกทำร้ายร่างกายได้อย่างไร

นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ของเด็กชายคนดังกล่าว เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.คูคต เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมปีที่แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว คดียังไม่คืบหน้า จึงขอให้ "กัน จอมพลัง" ช่วยเหลือ เพราะทุกวันนี้ "พี่เลี้ยง" ที่เป็นคู่กรณี ยังรับเด็ก ๆ มาดูแลอยู่

แม่ของเด็กชาย บอกว่า ที่ไปฝากเลี้ยงเพราะมีคนแนะนำทางโซเชียลว่าดูแลเด็กได้ดี พอไปคุยยังเห็นว่ารู้จักกับแม่ของตนเองด้วย ก็วางใจฝากเลี้ยงมาตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม โดยมอบเงินค่าฝากเลี้ยงดูวันละ 200 บาท ระหว่างนั้นก็มีการคุยกันอยู่เป็นระยะ ๆ พี่เลี้ยงยังรายงานให้ฟังว่า ลูกของตัวเองล้ม มีรอยแผลด้วย แต่บาดเจ็บไม่มาก ได้ปฐมพยาบาลแล้ว ก็ไม่คิดอะไร กระทั่งไปรับลูกวันที่ 26 ธันวาคม ตอน 20.00 น. เห็นบาดแผลของลูกแล้วรู้สึกแปลก ๆ สอบถามไปก็ได้รับคำตอบเดิม ทำให้ไม่เชื่อจึงเข้าแจ้งความ และขอให้ตำรวจช่วยตรวจรอยบาดแผลด้วย แต่ผ่านมาจนถึงวันนี้คดีกลับไม่มีความคืบหน้า

ตำรวจ สภ.คูคต ยืนยันว่าไม่ได้ล่าช้า แต่เพราะต้องรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์อย่างเป็นทางการก่อน ถึงจะดำเนินคดีต่อไปได้ หลังจากนี้ก็จะรวบรวมพยานหลักฐาน พิจารณาต่อไปว่าเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายหรือไม่

หลังติดตามความคืบหน้าคดี "กัน จอมพลัง" พร้อม ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่ พม. จังหวัดปทุมธานี ก็พากันลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุ และพูดคุยกับ "พี่เลี้ยงเด็ก" ซึ่งก็ยืนยันคำตอบเดิมที่เคยพูดกับแม่ของเด็ก ว่าแผลที่เห็นเกิดจากการหกล้มเอง ไม่ได้เกิดจากการทำร้ายเด็ก เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้พาเด็กอีก 2 คน ที่อยู่ในการดูแลของพี่เลี้ยงคนนี้ ไปตรวจดูสภาพร่างกาย พร้อมกับสอบถามข้อมูลชาวบ้านในละแวก ก่อนประสานกับพนักงานสอบสวน ร่วมกันพิจารณาอีกที ว่าจะดำเนินคดีอย่างไรต่อไป