“ปิยบุตร” ลั่น หากแสดงความคิดเห็น เป็นไปโดยสุจริต ไม่หยาบคาย ไม่เสียดสี ไม่อาฆาตมาดร้าย ก็ไม่ถือเป็นการละเมิดอำนาจศาล

View icon 200
วันที่ 1 ก.พ. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“ปิยบุตร” วิจารณ์ศาลรธน. 6 ประเด็น เรียกร้องสภาฯ ร่วมแก้กฎหมายลดอำนาจศาล พร้อมใช้โอกาสนี้หาเสียง ขอประชาชนเลือกพรรคก้าวไกล แบบถล่มทลาย ทั้งการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น แล ะระดับชาติ ในอนาคต เพื่อเปลี่ยนประเทศไทย ด้วย

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ไลฟ์สด (31 ม.ค.67 เวลา 19.00 น.) “แถลงการณ์วิจารณ์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ” โดยไม่เห็นด้วย  กับคำวินิจฉัย คำบังคับของคำวินิจฉัย ทั้งนี้ การแสดงความไม่เห็นด้วย และข้อวิจารณ์ต่างๆ นั้น เป็นการใช้เสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตไม่หยาบคาย ไม่เสียดสี ไม่อาฆาตมาดร้าย ซึ่งไม่ถือเป็นการละเมิดอำนาจศาลแต่ประการใด พร้อมวิจารณ์ 6 ข้อ ชี้คำวินิจฉัยคลุมเครือ พรรคก้าวไกล ไม่ได้ชูธงแก้ ม.112 วอนสภาโต้กลับ แก้ รธน.เรื่องขอบเขต ลดอำนาจศาล โดยข้อวิจารณ์ 6 ประเด็น คือ

1. การที่ศาลรัฐธรรมนูญ นำเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 มาปะปนกับการใช้อำนาจตามมาตรา 49 ย่อมส่งผลทำให้ดุลยภาพทางนิติบัญญัติและศาลรัฐธรรมนูญ หากปล่อยต่อไปศาลรัฐธรรมนูญ มีโอกาสแทรกแซงขัดขวางกระบวนการทางนิติบัญญัติได้ ทั้งๆ ที่การตรวจสอบทางกฎหมายมีกลไกอยู่แล้ว และจะกลายเป็นผู้แทรกแซงทุกขั้นตอนของกระบวนการนิติบัญญัติจนกระทบกับระบบรัฐสภาและประชาธิปไตย

2. คำวินิจฉัย ที่ว่า การแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลเป็นการล้มล้างการปกครอง จะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการกลั่นแกล้งกัน ใครร้องทุกข์ก็ได้ ทางแก้คือสามารถให้หน่วยงานอื่นทำหน้าที่แทนสำนักพระราชวังได้ 

3. ศาลนำเอา การชุมนุม การร่วมกิจกรรมยืนหยุดขัง เป็นนายประกัน และสมาชิกพรรค และ สส.พรรค แสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะ และ สส.ที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 และ เรื่องการติดสติกเกอร์ของ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มาเป็นเหตุว่าล้มล้างการปกครอง ทั้งนี้ขอบเขต ศาลควรดูเฉพาะ กรณีการเสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขมาตรา 112 เข้าสภา และการรณรงค์หาเสียง ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ เท่านั้น

4. การวางตัวอยู่เหนือการเมือง และความเป็นกลางทางการเมืองของสถาบันพระมหากษัตริย์ ทางแก้คือต้องออกแบบรัฐธรรมนูญ เพื่อมิให้มีการมองว่าสถาบันฝักฝ่ายใดฝักฝ่ายหนึ่ง แต่ศาลกลับมองว่า พรรคก้าวไกลเป็นคนนำประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์มารณรงค์หาเสียง

5. เมื่อยังไม่มีการเสนอแก้มาตรา 112 และพิจารณาในสภา ดังนั้น จะอนุมานว่าเป็นการล้มล้างการปกครองได้อย่างไร ทั้งที่สถาบันกษัตริย์ยังมีอยู่

6. คำสั่งมีความคลุมเครือ เพราะการไม่มีกำหนดเวลา เรื่องคำบังคับ สั่งการให้ นายพิธา และพรรคก้าวไกล เลิกการพิมพ์ การพูด การ เขียนและ โฆษณา ต่อไปศาลรัฐธรรมนูญจะใช้ อำนาจตาม ม.49 เข้าแทรกแซงนิติบัญญัติได้ทุกเมื่อ อาจทำให้ศาลรัฐธรรมนูญกลายเป็นรัฐธรรมนูญเสียเอง ปิดประตู แก้มาตรา 112 และจะทำให้คนไม่แน่ใจว่าแก่นแท้ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์อะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างคำว่าระบอบประชาธิปตย และคำว่าอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

สุดท้าย ผลกระทบต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้จะเปิดทางให้บรรดานักร้องรับลูกไปร้องต่อ ทั้งการร้องไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคก้าวไกล และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ  ป.ป.ช. ส่งไปยังศาลฎีกา ว่า บรรดา สส.ของพรรคก้าวไกล ดำเนินความผิดทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต

นายปิยบุตร เห็นว่า หากต้องทำตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ การแก้ 112 ยังพอทำได้อยู่ เพียงแต่แก้เพื่อย้ายหมวด แก้เพิ่มเหตุยกเว้นความผิด เหตุยกเว้นโทษ แก้ให้เป็นความผิดยอมความ และกำหนดให้สำนักพระราชวังเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษไม่ได้

พร้อมเรียกร้อง ให้สภาฯโต้กลับด้วยการคุมเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ และการแก้รัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อลดอำนาจหน้าที่ของศาล หรือยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญ ให้องค์กรทำหน้าที่แทน ซึ่งหลายประเทศก็ทำแล้ว

และขอใช้โอกาสนี้ เชิญชวนประชาชนนำความเจ็บปวดและผิดหวังกับคำวินิจฉัยในวันนี้ ออกไปใช้แสดงพลังผ่านการใช้สิทธิเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่จะถึงนี้ โดยให้เลือกตัวแทนของพรรคก้าวไกลให้ถล่มทลาย ส่วนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งหน้า ไม่ว่าพรรคไหนจะมาทำหน้าที่แทนพรรคก้าวไกล ให้ประชาชนเก็บความเจ็บแค้น เก็บความไม่พอใจ ไประเบิดในการเลือกตั้งให้ถล่มทลายเช่นเดียวกัน ให้มากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ เพื่อยืนยันว่าอำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของราษฎรทั้งหลาย