กรณี นายดิษฐ์ จะอื้อ ราฎรหมู่ 4 ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย ผู้ต้องหาคดีนำพาชาวเมียนมาจำนวน 2 คน ลอบเข้าไทย ได้แหกคุก หลบหนีออกจาก สภ.เมืองเชียงราย ระหว่างขั้นตอนการสอบสวนปากคำของพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 67
หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย, กก.สส.ภ.จว.เชียงราย และ บก.สส.ภ.5 สนธิกำลังกันแกะรอยออกติตตาม กระทั่งวันที่ 23 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาซึ่งขโมยรถจักรยานยนต์ของประชาชนบ้านห้วยแม่ซ้าย ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ใช้เป็นยานพาหนะหลบหนีโดยขับผ่านพื้นที่ อ.แม่จัน ปลายทางมุ่งหน้าไปชายแดนด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง
วันนี้ (25 ม.ค. 67) พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย จึงสั่งการให้ตั้งจุดตรวจสกัดบ้านสามแยกอาข่า พร้อมลงพื้นที่ติดตามด้วยตนเอง แต่นายดิษฐ์ ไหวตัวทันทิ้งรถหนีลงข้างทางไม่ไกลจากจุดตรวจเท่าใดนัก เจ้าหน้าที่ตรวจยึดรถ และตรวจค้น พบวัตถุระเบิดแบบประดิษฐ์เองจำนวนหนึ่ง เชื่อว่าคนร้ายน่าจะดัดแปลงให้เป็นระเบิดแสวงเครื่องเพื่อใช้ในการต่อสู้เจ้าหน้าที่ระหว่างหลบหนี
ขณะที่การระดมทุกสรรพกำลังเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้น พื้นที่บริเวณโดยรอบที่ตรวจยึดรถจักนยานยนต์นั้นไม่พบตัวผู้ต้องหา เบาะแสล่าสุดคนร้ายได้ลักจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่บ้านเล่าสิบ ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง แล้วหนีไปทางบ้านเล่าฟู่ ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเดินทางต่อไปยังพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่, พื้นที่ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย หรือหลบหนีซ่อนตัวอยู่ตามชุมชนบนพื้นที่สูงของอำเภอแม่ฟ้าหลวงได้
พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย เปิดเผยว่า ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทั้ง ผบ.ตร. ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้สั่งการให้ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 จัดกำลังมาสนับสนุนการติดตามไล่ล่าจับกุมแล้ว แต่เส้นทางที่ผู้ต้องหาใช้ในการหลบหนีเป็นพื้นที่ป่าภูเขาสูงชันทำให้ยากแก่การติดตาม นอกจากนั้นผู้ต้องหายังขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านหลบหนีไปต่อ ตอนนี้ตำรวจวางสายไว้ทั่วตัวจังหวัดเนื่องจากผู้ต้องหาชอบเที่ยวกลางคืน และมีเพื่อนอยู่สนิทอยู่จำนวนหนึ่งเผื่อว่าจะได้เบาะแส แต่ที่สำคัญผู้ต้องหามีระเบิดปิงปองจำนวนหนึ่งจึงกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มระมัดระวัง
พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย ยังฝากถึงประชาชนด้วยว่า ผู้ต้องหาเป็นบุคคลอันตรายขอให้ระมัด และหากทราบเบาะแสของคนร้าย ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้เบาะแสที่ได้รับแจ้งไปแกะรอยจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ จะมอบเงินรางวัลนำจับให้ผู้แจ้งเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท ทั้งนี้จะเป็นเงินรางวัลนำจับจากของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย 30,000 บาท และเงินรางวัลนำจับของกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 จำนวน 20,000 บาท
