พี่ชาย หวานเจี๊ยบ ลั่น ยังติดใจการเสียชีวิตของน้อง

View icon 97
วันที่ 24 ม.ค. 2567
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - ยังคงตามกันต่อกับกรณีพบศพหญิงอายุ 23 ปี หรือ หวานเจี๊ยบ พริตตีสาว ถูกยิงเสียชีวิต ภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ซอยประชาอุทิศ 24 เขตห้วยขวาง เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567

ล่าสุดพี่ชายของ หวานเจี๊ยบ บอกว่า น้องสาวคบหาดูใจกับผู้ก่อเหตุมาระยะหนึ่งแล้ว บางครั้งจะบ่นให้ฟังว่าทะเลาะกับแฟน แต่ไม่เล่ารายละเอียดให้ฟัง และเคยพาผู้ก่อเหตุมารับประทานอาหารกับที่บ้าน 1-2 ครั้ง ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นคนเงียบ ๆ ถามคำตอบคำ เลยไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร

ตอนนี้ครอบครัวยังติดใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ เรื่อง แต่เมื่อผู้ก่อเหตุเสียชีวิตแล้ว ก็หวังว่าตำรวจจะสามารถให้คำตอบที่ชัดเจนกว่านี้ได้ หลังจากนี้ตนเองและครอบครัวคงจะต้องดำเนินชีวิตต่อไป เพราะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้

ส่วน ปีใหม่ ภรรยาของเฮียชัช ได้เดินทางไปรับศพที่สถาบันนิติเวชแห่งใหม่ จังหวัดปทุมธานี เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า คบหากับ เฮียชัช มาประมาณ 5 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คน โดยทะเลาะกันบ้าง สามีเป็นคนอารมณ์ร้อน ขี้หึง แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกายหรือใช้อาวุธปืนข่มขู่สักครั้ง ตอนที่กำลังตั้งครรภ์ก็จับได้ว่าสามีแอบไปคบกับหวานเจี๊ยบ เคยแอบตามสามีไปเจอหวานเจี๊ยบแล้วทะเลาะกัน ตอนนั้นขอให้สามีเลิกติดต่อกับฝ่ายหญิงถาวร ซึ่งสามีก็รับปากว่าจะเลิก แต่สุดท้ายก็จับได้ว่ายังติดต่อและไปมาหาสู่กันตลอด

ส่วนวันเกิดเหตุก็ไม่รู้ว่าสามีไปหาฝ่ายหญิง จนสามีโทรศัพท์มาบอกว่าให้ไปหาที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง พื้นที่จังหวัดนนทบุรี ตอนที่ไปถึงที่ห้อง เห็นสามีนั่งหน้าเครียด แต่ไม่ได้เล่ารายละเอียด และเอาเงินสดมาให้ 100,000 บาท ก่อนจะแยกย้ายกัน กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 22 มกราคม 2567 สามีโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารมาให้ 2 ครั้ง "ครั้งแรก 49,999 บาท พร้อมเขียนโน้ตว่า "ลาก่อน" ส่วนครั้งที่สอง 40,000 บาท พร้อมเขียนโน้ตว่า "ฝากลูกด้วย" ลาก่อนนะไม่ต้องทุกข์เพราะพี่อีกแล้ว"

ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า ทุกอย่างค่อนข้างชัดเจนว่า "เฮียชัช" คือผู้ก่อเหตุ แต่ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อความชัดเจน ก่อนจะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เพราะผู้ก่อเหตุเสียชีวิต

ส่วนประเด็นที่ครอบครัวติดใจเรื่องที่ตำรวจไม่จับกุมเฮียชัช เอาผิดคดีที่ทำร้ายเพื่อนชายของหวานเจี๊ยบ ซึ่งเกิดขึ้นที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา กรณีนี้เป็นคดีเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ทำให้อำนาจการสอบสวนเป็นของอัยการสูงสุด และเพิ่งมีการส่งเรื่องกลับมาให้ตำรวจดำเนินการต่อเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ส่วนประเด็นเรื่องพนันออนไลน์ที่เฮียชัชเข้าไปพัวพันและมีหนี้สินติดตัวเป็นร้อยล้าน เป็นแค่คำบอกเล่าของพยาน ต้องรอเรียกตัวเพื่อนของผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำ

ส่วนเพื่อนสนิทของหวานเจี๊ยบ เชื่อว่าปมการก่อเหตุมาจากเรื่องเงิน เพราะทราบมาว่าเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา เฮียชัชได้เงินจากการจำนองบ้าน 3,000,000 บาท ได้แบ่งให้หวานเจี๊ยบ 1,000,000 ล้านบาท เป็นของขวัญวันเกิดที่จะถึงในเดือนกุมภาพันธ์ แต่หลังจากนั้นเฮียชัชก็มาขอเงินคืนไป 500,000 บาท เพราะหมดไปกับการเล่นพนัน จากนั้นเฮียชัชได้ขอเงินอีก 500,000 บาท ทำให้มีปากเสียงกับหวานเจี๊ยบ

นอกจากนี้ยังทราบมาว่า เฮียชัช เคยทำเว็บฯ พนันออนไลน์มาก่อน มักจะเดินทางไปเล่นพนันที่ประเทศเพื่อนบ้านอยู่บ่อย ๆ ก่อนจะเลิกทำเว็บฯพนัน แต่ยังติดเล่นพนันอยู่ ส่วนช่วงเวลาที่คบกับหวานเจี๊ยบ ตลอด 2 ปี เฮียชัชจะให้เงินเดือนละ 100,000 บาท แต่ก็มีการทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง จนเพื่อนสงสารและบอกให้เลิก หลังจากเฮียชัชเห็นข้อความก็ได้ข่มขู่จะจัดการทีละคน

นายธนัฐ โอนอ่อน อายุ 28 ปี ผู้เสียหายที่ถูกเฮียชัช กับพวก 1 คน ทำร้ายร่างกายที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เล่าว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังถูกจ้างไปทำงานในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ระหว่างนั้นเฮียชัชได้ตามให้ออกไปเปิดเพลง ก่อนที่ เฮียชัช กับลูกน้องที่ชื่อ นายตี๋ จะเข้ามารุมทำร้ายจนจมูกหัก ตาขวาบวม ฟกช้ำตามร่างกาย และใบหน้า โดยไม่รู้ว่าตอนนั้นถูกทำร้ายไปเพราะอะไร เพราะไม่ได้รู้จักหรือเคยเห็นหน้าเฮียชัชมาก่อน จนมารู้ว่าสาเหตุเพราะ ตนเคยไปหอมแก้มหวานเจี๊ยบ เลยทำให้เฮียชัชไม่พอใจ