เฮียเก้า ภาคเสธยืนยันไม่ได้สวมสิทธิ์ตีนไก่เถื่อน

View icon 107
วันที่ 23 ม.ค. 2567
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - "เฮียเก้า" ผู้ต้องหาคดีสวมสิทธิ์ตีนไก่เถื่อน เดินทางกลับมาสู้คดีนี้ในไทย โดยยอมรับเรื่องที่ทำธุรกิจส่งออกตีนไก่ แต่ปฏิเสธไม่ได้สวมสิทธิ์ ขณะที่ DSI ยืนยันมีหลักฐานเชื่อมโยง เตรียมเรียกประชุมใหญ่เช้าวันนี้

นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ เฮียเก้า เดินทางมาถึงไทย ผ่านท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ควบคุมตัวตามที่ถูกศาลออกหมายจับ คดีนำเข้าตีนไก่และสวมสิทธิ์ส่งออกไปขายที่จีน เมื่อช่วงปี 2564 ก่อนพาไปสอบสวนแจ้งข้อหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI

โดยทันทีที่ นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ เฮียเก้า 1 ใน 5 ผู้ต้องหา ตามหมายจับคดีสวมสิทธิ์ตีนไก่เถื่อน ถูกคุมตัวมาถึงอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ สื่อมวลชนได้พากันเข้าไปสอบถาม ซึ่ง เฮียเก้า ยืนยันให้การปฏิเสธ ไม่ขอตอบปมความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนจะเดินเข้าไปให้ปากคำกับ พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และหัวหน้าชุดสอบสวนคดีหมูเถื่อน

หลังสอบปากคำไปได้ 2 ชั่วโมง พันตำรวจตรี ณฐพล ได้เปิดเผยว่า เฮียเก้า ยังให้การปฏิเสธเรื่องการสวมสิทธิ์ แต่ยอมรับว่าทำธุรกิจส่งตีนไก่ออกนอกประเทศจริง ขณะที่พนักงานสอบสวนไม่ปักใจเชื่อ เพราะพบหลักฐานเชื่อมโยงไปยังผู้ต้องหารายอื่น ๆ และอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องการให้ประกันตัว ส่วน นายกรินทร์ เฮียเก้า บอกว่า ได้คุยกันเรื่องธุรกิจเพียง 1 ครั้ง ขณะอยู่ที่ประเทศจีน แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อหากันได้

ขณะที่วันนี้ DSI ได้เรียกประชุมใหญ่คณะพนักงานสอบสวน เพื่อนำพยานหลักฐานทั้งหมดมาสรุป ก่อนกำหนดกระบวนการสอบสวนในคดีนี้ต่อไป

สำหรับคดีการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อน 10,000 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่เป็นการขยายผลมาจากการตรวจสอบเนื้อหมูเถื่อน DSI ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้ 5 คน เมื่อรวมกับ เฮียเก้า ทำให้เหลือเพียง นายกรินทร์ ลูกชายของเฮียเก้า เพียงคนเดียว ที่ยังอยู่ในจีน ยังไม่มีการประสานว่าจะกลับมามอบตัวหรือไม่

ซึ่งนอกจากคดีเนื้อหมูเถื่อน เนื้อวัวเถื่อน ตีนไก่สวมสิทธิ์ วันนี้มีอีก 1 คดี เป็นการสวมสิทธิ์กุ้งเถื่อน ของ 2 บริษัทเอกชนในจังหวัดระนอง ที่จะมาร้องขอให้ DSI ช่วยตรวจสอบด้วย