สถานการณ์ก่อนการเลือกตั้งขั้นต้นที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ เพื่อหาตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ 2 ผู้สมัครอย่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางนิกกี เฮลีย์ ต่างปะทะคารมกันเรื่องสติปัญญาในการเป็นผู้นำประเทศ
การเลือกตั้งขั้นต้น หรือไพรมารี ที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ เพื่อหาตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 มกราคมนี้ นางนิกกี เฮลีย์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ กล่าวถึงนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ว่านายทรัมป์ น่าจะสับสนและมีปัญหาเรื่องของสติปัญญา เพราะนายทรัมป์บอกว่า เธอไม่สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในเหตุจลาจลที่มีผู้ประท้วงบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 รวมทั้งโจมตีว่าเธอรับมือเหตุจลาจลได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ในความเป็นจริง นางเฮลีย์ไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งบุคคลที่นายทรัมป์หมายถึงน่าจะเป็นนางแนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น และชาวอเมริกันควรตั้งข้อสงสัยต่อความสามารถของนายทรัมป์ในการบริหารประเทศ เพราะเรื่องง่าย ๆ เช่นนี้ก็จำผิดพลาด
ขณะที่ นายทรัมป์โต้กลับว่า เขาเพิ่งทำบททดสอบระดับสติปัญญาเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว ซึ่งแพทย์บอกว่าเขาทำคะแนนได้ดีมาก และสภาพจิตใจของเขาดีกว่าเมื่อ 25 ปีที่แล้ว พร้อมทั้งเรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนออกไปใช้สิทธิเลือกเขาในการเลือกตั้งขั้นต้นที่จะมีขึ้นสัปดาห์หน้า เพื่อเอาชนะตัวเลือกที่อ่อนหัดอย่างนางเฮลีย์ และนายรอน เดอซานติส ให้ถล่มทลาย
ทั้งนี้ จากผลสำรวจคะแนนนิยมล่าสุด นายทรัมป์มีคะแนนนำที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ 48 เปอร์เซ็นต์ นางเฮลีย์มีคะแนน 33 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนายเดอซานติส ได้คะแนนนิยมไปเพียง 7 เปอร์เซ็นต์
