สันนิษฐานโกดังพลุระเบิด เกิดจากการเสียดสี ระหว่างผลิต

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เมื่อวานเป็นวันสุดท้ายที่ตำรวจเข้าพื้นที่ไปตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุ ที่ตั้งโกดังผลิตพลุ ที่เกิดการระเบิดขึ้นในจังหวัดสุพรรรบุรี ก่อนสรุปผลว่ารวบรวมพยานหลักฐานครบแล้ว และตรวจ DNA ยืนยันผู้เสียชีวิตได้ครบทั้ง 23 คนเรียบร้อย ส่วนสาเหตุความเป็นไปได้ ว่าอะไรที่ทำให้เกิดการระเบิด ก็มีการตั้งไว้ 2 กรณี

พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปประชุมติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบที่เกิดเหตุรอบพื้นที่โกดังเก็บพลุระเบิดในจังหวัดสุพรรณบุรี หลังสั่งการให้ดำเนินการสูบน้ำในบ่อ และในคูที่อยู่ข้างเคียงออกหมด เพื่อดูว่ายังมีพยานหลักฐานใดตกค้างอีกหรือไม่ ซึ่งก็พบชิ้นส่วนขา 1 ท่อน และถังสารเคมี 1 ถัง ก่อนจะมีข้อสรุปว่า การค้นหาชิ้นส่วนร่างกายผู้เสียชีวิต และการเก็บพยานหลักฐาน ได้ดำเนินการครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงการนำกลับไปตรวจพิสูจน์ตามกระบวนการของกฎหมาย

ส่วนผลการตรวจพิสูจน์ร่างผู้เสียชีวิต ด้วยการตรวจลายนิ้วมือ และ DNA ยืนยันว่าสามารถตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบจนยืนยันได้ครบทั้ง 23 ศพ เรียบร้อย เหลือเพียงการเร่งรัดส่งศพให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา

ทีมข่าว 7HD ได้สอบถามเรื่องผลการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุกับ พลตำรวจตรี กำธร อุ่ยเจริญ ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจวัตถุระเบิดโดยเฉพาะ เนื่องจากเคยอยู่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD มาก่อน อธิบายลักษณะที่เกิดเหตุให้ฟังว่า จากการตรวจสอบพบมีการระเบิดเกิดขึ้นทั้งหมด 23 จุด จุดที่ใหญ่ที่สุด เป็นหลุมขนาด 5.3 เมตร ลึกประมาณ 1 เมตร สันนิษฐานว่าจุดนี้เป็นจุดที่ใช้เก็บสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้ว หรืออาจใช้เก็บวัตถุดิบในการผลิต ส่วนที่เหลืออีก 22 หลุม มีขนาดเล็กใหญ่ลดหลั่นลงไป สันนิษฐานว่าเป็นโรงผสมดินปืน ที่คนงานประกอบทำ "ประทัดไล่นก"

โดยประทัดไล่นก เป็นวัตถุระเบิดที่ผลิตจากดินชนิดหนึ่ง ประทัด 1 ลูก เคยทำการทดสอบแล้วพบว่า หากถือและระเบิดในมือสามารถทำให้นิ้วขาดได้ ตัวประทัดยังมีคุณสมบัติไวต่อไฟ หรือการเสียดสี จึงทำให้เกิดข้อสันนิษฐานความเป็นไปได้ 2 กรณี ที่อาจทำให้เกิดการระเบิดขึ้น

กรณีแรก เป็นเพราะมีประกายไฟเกิดขึ้นโดยตรงจึงทำให้เกิดการระเบิด กรณีที่ 2 เกิดการเสียดสี หรือกระแทก จนเกิดประกายไฟ ก่อนจะเกิดการระเบิดเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งกรณีนี้อาจเกิดขึ้นระหว่างการประกอบวัตถุระเบิด มีคนงานเผลอทำสิ่งของตกลงพื้น หรือมีดินระเบิดติดไปกับพื้นรองเท้า หรือมีการลากถังเก็บวัสดุไปมา ทำให้เกิดประกายไฟแล้วเกิดการระเบิดขึ้น ส่วนเรื่องความชื้น และไฟฟ้าสถิต มีความเป็นไปได้น้อยมาก

ส่วนการตรวจสอบคุณภาพน้ำ บริเวณจุดเกิดเหตุพลุระเบิด นายปภินวิช ละอองแก้ว หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสุพรรณบุรี ยืนยันว่า กรมควบคุมมลพิษ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว พบว่า ไม่มีสารปนเปื้อนในแหล่งน้ำ หรือส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม จึงขอให้ชาวบ้านมั่นใจว่าจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

ส่วนเรื่องการประกอบพิธีทางศาสนา เมื่อวานนี้ก็มีทั้งญาติที่เพิ่งได้เริ่มต้นประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ให้กับผู้เสียชีวิตที่พิสูจน์ทราบตัวบุคคลเรียบร้อย อย่างที่วัดโรงช้าง ตำบลศาลาขาว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ก็มีการประกอบพิธีให้กับญาติจำนวน 10 ราย มีบุตรหลาน บวชหน้าไฟ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้

ส่วนผู้เสียชีวิต 5 ราย ที่พิสูจน์ทราบได้ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ และมีการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลไปก่อนแล้ว ที่ วัดโรงช้าง วัดขวางศรีสุวรรณ และวัดพระธาตุศาลาขาว ก็มีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าของครอบครัว 

และแม้ว่าจะมีการปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีเหตุระเบิดสุพรรณบุรี ไปแล้ว แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่บางส่วนคอยอำนวยความสะดวกให้กับญาติผู้สูญเสีย และครอบครัวผู้สูญเสียเอง ก็ยังสามารถสอบถามข้อมูลการช่วยเหลือได้จากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลศาลาขาว