ห้องข่าวภาคเที่ยง - ความเคลื่อนไหวคดีลักลอบนำเข้า "ตีนไก่" เพื่อสวมสิทธิ์ส่งออกไปจีน ที่ดีเอสไอเพิ่งรับเป็นคดีพิเศษ ช่วงบ่ายวันนี้ "เฮียเกียรติ" อดีตเลขาส่วนตัวของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเข้ามอบตัว หลังถูกออกหมายจับในคดีนี้
หลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รับเพิ่มอีก 2 คดีเป็นคดีพิเศษ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อน ซึ่งเชื่อมโยงกับคดี "หมูเถื่อน" ที่ดีเอสไอรับผิดชอบและดำเนินการมาก่อนหน้านี้ โดย 2 คดีที่รับเพิ่มเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า "หมูเถื่อน" 2,388 ตู้คอนเทนเนอร์ จากต่างประเทศ อีกคดีเป็นการนำเข้านำเข้าเนื้อสัตว์ จำนวนกว่า 10,000 ตู้ เกี่ยวข้องกับการสวมสิทธิ์ "ตีนไก่" นำเข้าจากประเทศบราซิล และอุรุกวัย ที่ไทยได้โควตาส่งออกไปประเทศจีน คดีนี้มีผู้ที่ถูกออกหมายจับไปทั้งหมด 5 คน คือ นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า, นายหยาง ยา ซุง, นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์, นางสาวนวพร เชาว์วัย และ นายสมเกียรติ กอไพศาล หรือเฮียเกียรติ อดีตเลขาส่วนตัวของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน
โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดีเอสไอ ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพัก บริษัทฯ ของทั้ง 5 คน แต่ก็ไม่พบตัว จากข้อมูลทราบว่าทั้งหมดได้เดินทางไปต่างประเทศ และประสานเข้ามอบตัวในสัปดาห์นี้ ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายหยาง ยา ซุง และนางสาวนวพร เชาว์วัย ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ แล้ว
ส่วน นายสมเกียรติ หรือเฮียเกียรติ อดีตเลขาส่วนตัวของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน จะเดินทางมาถึงท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 12.45 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ไปรอบรับตัว และนำตัวไปสอบสวนที่ดีเอสไอ
ขณะที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่เป็นคนร้องเรียนเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว วันนี้เข้าแจ้งความกับตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. พร้อมกับนำหลักฐานการปลอมบัตรประชาชนของลูกชายและลูกสาวของ นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ เฮียเก้า ผู้ต้องหาที่ถูก ดีเอสไอ ออกหมายจับ
นายอัจฉริยะ บอกว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมือง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกบัตรประชาชนให้ลูกชายและลูกสาวของเฮียเก้าโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในส่วนของลูกชายเฮียเก้าได้ไปเอาชื่อบุคคลที่อยู่ในจังหวัดน่านมาเป็นพ่อแม่ ส่วนลูกสาวของเฮียเก้า ได้ใช้บุคคลในกรุงเทพมหานครเป็นชื่อพ่อ ส่วนแม่เป็นคนจีน
ส่วนเฮียเก้านั้น เป็นญาติหรือพี่น้องร่วมสาบานกับอดีตรัฐมนตรีชื่อดัง ซึ่งตามกฎหมายแล้ว ไม่สามารถมาทำธุรกิจในประเทศไทยได้ แต่อยู่ในประเทศไทยโดยวิธีการต่อหนังสือเดินทางทุก 3 เดือน โดยมีข้าราชการระดับสูงในกลุ่มปศุสัตว์ คอยช่วยเหลือในการสวมสิทธิ์หมูเถื่อนและตีนไก่เถื่อน
ส่วนกรณี เฮียเกียรติ อดีตเลขาส่วนตัวของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปมีเอี่ยวกับขบวนการนำเข้าหมูและตีนไก่เถื่อนด้วยนั้น นายอัจฉริยะ ระบุว่า นายสมเกียรติไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีหน้าที่รับหน้าเสื่อตัวกลางเคลียร์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้กลุ่มกระบวนการได้รับประโยชน์
