บุหรี่เถื่อนหนีภาษีแอบส่งผ่านบริษัทไปรษณีย์ มูลค่ากว่า 45 ล้านบาท

View icon 353
วันที่ 12 ม.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจ ปอศ.ทลายขบวนการส่งบุหรี่หนีภาษี ผ่านไปรษณีย์จันทบุรี เจอของกลาง 4,881 คอตตอน คิดมูลค่าความเสียหายกว่า 45 ล้านบาท

บุหรี่ต่างประเทศ วานนี้(11 ม.ค.2567) เมื่อเวลา 09.30 น. ตำรวจกองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำโดย พ.ต.ท.พีระพัฒน์ สุทธเสนา สว.กก.2 บก.ปอศ.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันจับกุม นายตะวัน (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน "ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร" ตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ และ "ผู้ใดมีไว้ในครอบครองโดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วนหรือผู้ใดขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน" ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 พร้อมของกลาง บุหรี่ต่างประเทศ จำนวน 4,881 คอตตอน (จำนวน 48,810 ซอง หรือ 976,000 มวน), รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 36-- จันทบุรี และ รถยนต์ กระบะ ตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน 70-- จันทบุรี ใช้เป็นยานพาหนะในการขนส่ง โดยจับกุมได้ที่ไปรษณีย์ไทย พื้นที่ตำบลทับไทร อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี

สืบเนื่องจากตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ขยายผลจากการจับกุมนางศันสนี หรือเจ๊เพ็ญฯ ซึ่งเป็นผู้ค้าบุหรี่ต่างประเทศรายใหญ่ย่านฝั่งธนบุรี ซึ่งปฏิบัติการในครั้งนั้น ตรวจยึดบุหรี่ต่างประเทศได้จำนวน 40 ลัง หรือประมาณ 20,973 ซอง ซึ่งมีวิธีการคือ นำส่งบุหรี่ต่างประเทศมาบรรจุในกล่องพัสดุไปรษณีย์ จากนั้นจึงร่วมกันเฝ้าสะกดรอยติดตาม และร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าบุหรี่ที่จำหน่ายในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ได้ร่วมกันจับกุมก่อนหน้านี้นั้นมีที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน มีทั้งบุหรี่ที่มีการลักลอบนำเข้ามาโดยผิดกฎหมายและมีบุหรี่บางรายการเป็นบุหรี่ปลอมซึ่งมีจำนวนหลายรายการ บก.ปอศ.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต จึงได้ร่วมกันทำการสืบสวนและเฝ้าติดตามกลุ่มเครือข่ายที่ได้สืบสวนมาก่อนหน้านี้ และพบว่าในการขนส่งจะมีวิธีการในหลบเลี่ยงการจับกุมคือ เมื่อลักลอบนำเข้าบุหรี่จากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในราชอาณาจักรแล้ว ทางกลุ่มขบวนการดังกล่าวจะรีบนำมาคัดแยกใส่กล่องพัสดุ โดยการนำมาบรรจุใส่ในกล่องพัสดุไปรษณีย์ เป็นจำนวนหลายกล่อง ให้มีลักษณะคล้ายกับกล่องพัสดุโดยทั่วไป เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบและจับกุมจากเจ้าหน้าที่ จากการเฝ้าติดตามพบว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าวจะนำบุหรี่ฯ ส่งมายัง ไปรษณีย์ไทย ในบริเวณ ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เป็นประจำเกือบทุกวัน สลับหมุนเวียนกันไป

ต่อมาตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต พบข้อมูลเชิงลึกว่าในการขนส่งบุหรี่ฯ ดังกล่าว ใช้รถยนต์จำนวน 2 คัน คือ รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ใช้ในการดูต้นทางและบรรทุกบุหรี่ฯ บางส่วน และ รถยนต์ กระบะ ตู้ทึบ ใช้เป็นยานพาหนะในการขนส่งบุหรี่ ไปยังไปรษณีย์เพื่อส่งให้กับลูกค้า สำหรับรถยนต์กระบะดังกล่าวเดิมมีหมายเลขทะเบียนอีกหมายเลขหนึ่ง แต่ได้มีการเปลี่ยนป้ายทะเบียน เป็นแผ่นป้ายตามที่ตรวจยึด เพื่อหลบเลี่ยงและทำให้ยากต่อการติดตามจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สะกดรอยติดตามรถยนต์ทั้ง 2 คัน ออกมาจากจุดคัดแยกและบรรจุพัสดุ ในพื้นที่ห่างจากพรมแดนระหว่างประเทศ ประมาณ 10 กิโลเมตร จนสามารถติดตามจับกุมได้พร้อมด้วยของกลาง เป็นบุหรี่ต่างประเทศ จำนวน 4,881 คอตตอน (จำนวน 48,810 ซอง หรือ 976,200 มวน มูลค่าความเสียหายคิดเป็นภาษี ประมาณ 45,597,780 บาท นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ซื้อบุหรี่มาจากหญิงชาวกัมพูชา ชื่อเล่นว่า “เจ๊โอน” (ไม่ทราบชื่อ - สกุลจริง) โดยสั่งซื้อมาครั้งละ ประมาณ 50-100 กล่อง (ประมาณ 4,000 -6,000 คอตตอน) โดยสั่งซื้อต่อสัปดาห์ ประมาณ 3-4 ครั้ง จากนั้น “เจ๊โอน” จะว่าจ้างให้รถบรรทุกขนส่งเอกชนส่งบุหรี่มายังบ้านพักของตน ซึ่งอยู่ในสวนลำไย นำบุหรี่ที่ได้มาบรรจุใส่กล่องพัสดุ ไปรษณีย์ ให้ดูเหมือนกล่องพัสดุโดยทั่วไป และจะกระจายบุหรี่ นำส่งลูกค้าตามที่ได้สั่งซื้อ สำหรับรถยนต์กระบะ ตู้ทึบที่ใช้ขนนั้น จะมีการหมุนเวียนสลับเปลี่ยนป้ายทะเบียนอยู่เสมอ และในการขนส่งบุหรี่แต่ละรอบจะมีรถยนต์ อีก 1 คัน เพื่อดูต้นทางเพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุม เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีผู้ร่วมขบวนการหลายราย มีเงินหมุนเวียนใน 1 ปี ที่ผ่านมา มากกว่า 40 ล้านบาท จากนี้จะได้ทำการสืบสวนขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และผู้ร่วมขบวนการ ต่อไป