ข่าวเย็นประเด็นร้อน - DSI บุกตรวจค้น 5 เป้าหมาย บริษัทชิปปิงเอกชนและห้องเย็น ย่านท่าข้าม บางขุนเทียน เกี่ยวข้องขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน
ช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นำหมายค้นเข้าตรวจค้น 5 เป้าหมาย ทั้งบริษัทชิปปิงเอกชนและห้องเย็นในพื้นที่ท่าข้าม บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจหาหลักฐานสำคัญและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน หลังจากก่อนหน้านี้ ดีเอสไอได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องจำนวน 4 ปาก ในคดีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนกว่า 10,000 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่าเสียหายกว่า 6,000-7,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนมี เฮีย ก. น้องชายของนักการเมืองชื่อดัง เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการดำเนินการ โดยนักการเมืองจะเป็นผู้คุมนโยบาย ส่วนข้าราชการประจำที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการนำเข้าหมูและไก่ จะเป็นระดับ "บิ๊ก" หรือเป็นระดับผู้ใหญ่ในกระทรวงฯ จะเปิดไฟเขียวให้มีการนำเข้าสินค้าแช่แข็ง ประเภทตีนไก่ โดยนำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น บราซิล รัสเซีย สเปน เนเธอร์แลนด์ แล้วนำมาสวมสิทธิในไทย ก่อนจะส่งออกไปขายที่จีน
จากการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ระบุว่า เฮีย ก. กับพรรคพวก และกลุ่มคนจีน 2 คน ได้ร่วมกันทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสินค้าการเกษตรประเภทไก่ เนื้อหมู และเนื้อวัว แต่ช่วงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่ามีการนำเข้าไก่ ปีกไก่ ตีนไก่ จากบราซิลและอุรุกวัยจำนวนมาก หลังสินค้าดังกล่าวถูกส่งมาถึงท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือคลองเตย ก็จะเข้าสู่ขบวนการ โดยจะมีตัวแทนของบริษัทชิปปิง ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำหน้าที่ตรวจสอบสำแดงเอกสารเท็จ ประทับตราในเอกสารเพื่อยืนยัน เปลี่ยนจากตีนไก่เป็นปลาแซลมอน หรือเป็นโพลิเมอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
โดยรายงานจากดีเอสไอ เปิดเผยรายชื่อ 4 บุคคลที่ถูกออกหมายจับ ประกอบด้วย นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ เฮียเก้า นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย, นายหยาง, นายกรินทร์ ลูกชายของนายหลี่ และ นางสาวนวพร ฝ่ายบริหารจัดการด้านบัญชีของนายหลี่ ในข้อหาผิด พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ร.บ.ปศุสัตว์ อั้งยี่ซ่องโจร และฟอกเงิน
