“บิ๊กทิน” ผุดแผนลดจำนวน “นายพล” ชวนเออรี่ก่อนเกษียณ คาดใช้งบ 600 ล้านบาท จ่อถกสภากลาโหมเดือนหน้า ปลายปีแฮปปีแน่นอน

View icon 146
วันที่ 11 ม.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตั้งเป้าลดจำนวน “นายพล” เกินจำเป็น ให้เหลือไม่เกิน 300 คน ภายในปี 2570 “บิ๊กทิน” เล็งใช้มาตรการเออรี่ก่อนเกษียณจูงใจ

วันนี้ (11ม.ค.67) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง เปิดเผยความคืบหน้า นโยบายการปรับลดจำนวนนายพลทุกเหล่าทัพ ในตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ของนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อลดจำนวนนายพลในตำแหน่งดังกล่าวเกินความจำเป็น ลงกว่า 50% ภายใน 3 ปี หรือเหลือน้อยกว่า 300 คน ในปี 2570

ที่ผ่านมามีชั้นนายพลประมาณ 2,000 นาย โดยเป็นกำลังหลักประมาณ 1,300 นาย ซึ่งกำลังหลักจำเป็นต้องพิจารณาถึงสถานการณ์ความมั่นคงของโลกและในภูมิภาค รวมทั้งรูปแบบในยุทธวิธีต่างๆซึ่งปัจจุบันมีสงครามไซเบอร์หรือ Cyber warfare และเรื่องอวกาศเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ส่วนจำนวนนายพลกว่า 700 นายในตำแหน่งประจำ ได้เริ่มดำเนินการมาก่อนแล้ว คาดว่าจะเป็นผลสัมฤทธิ์เป็นไปตามเป้าหมายได้

และ มีนโยบายสร้างแรงจูงใจในการลดจำนวนชั้นยศ “พันเอก (พิเศษ)” ที่จะขึ้นไปเป็น “นายพล” ในอนาคต ลงอีกกว่า 570 อัตรา เพื่อให้สอดรับกับตำแหน่งนายพลที่จะลดลงไป ด้วยนโยบายสร้างแรงจูงใจให้นายทหารเกษียณก่อนกำหนด (Early Retire) เช่น การจ่ายเงินชดเชย หรือ "เงินก้อน" ประมาณ 7 แสนบาท ขึ้นอยู่กับชั้นยศ  และเวลารับราชการ ซึ่งจะมีสูตรคำนวณชัดเจนรวมทั้งสิทธิบำเหน็จ/บำนาญก็จะได้รับตามปกติซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ และกำลังใจต่อกำลังพลของกองทัพ  เมื่อตัดสินใจในช่วงนี้ ถือว่าได้สิทธิประโยชน์มากที่สุดเมื่อเทียบกับโครงการที่ผ่าน ๆ และในการบริหารของรัฐบาลจะสามารถลดภาระงบประมาณประเทศในระยะยาวอีกด้วย  

ทั้งนี้ รูปแบบข้อเสนอ/แรงจูงใจต่าง ๆ  อยู่ในขั้นตอนรับฟังความเห็นจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย  โดยก่อนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะนำเข้าที่ประชุมสภากลาโหม และ เสนอ ครม. เพื่อพิจารณาอนุมัติ “แผนและกรอบงบประมาณ” เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันปีนี้ดังนั้น ในช่วงการเกษียณอายุราชการของข้าราชการในเดือนตุลาคม 2567 นี้ คาดใช้เงินงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ประมาณ 600 ล้านบาท ภายใน 3 ปี (2568 - 2670 )หรือ เฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อปี

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า แม้ที่ผ่านมากองทัพจะมีแผนปรับลดจำนวนนายพล “ระยะยาว” ปี 2551 - 2571 แต่นโยบายครั้งนี้ จะผลักดันให้บรรลุเป้าหมาย รวดเร็วขึ้น “ภายใน 3 ปี” โดยเน้นกลุ่มพลตรี - พลโท - พลเอก ในตำแหน่ง ได้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ - ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ “ทุกเหล่าทัพ”  ทั้งนี้ที่ผ่านมาพบว่าในช่วงรัฐบาล คสช. ปี 2557 - 2561 เคยทำโครงการเกษียณก่อนกำหนด “ทุกชั้นยศทุกตำแหน่ง” โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 26,000ตำแหน่ง จึงเชื่อว่าโครงการลดนายพลครั้งนี้จะได้รับการตอบรับดีอย่างแน่นอน  นายจิรายุ กล่าว