คปท.-นิพิฏฐ์ ล่าชื่อยื่นศาลฏีกา ลั่น จัดม็อบค้างทำเนียบฯ 3 วัน

View icon 111
วันที่ 10 ม.ค. 2567
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจของ นายทักษิณ ชินวัตร ถึงวันนี้เกิน 120 วันแล้ว ทำให้แรงกดดันให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย เช่น ฝั่ง สว.ที่เตรียมอภิปรายเรื่องนี้ตามมาตรา 153 อีกด้านหนึ่งภาคประชาชนอย่าง เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ได้เตรียมยกระดับเช่นกัน ครั้งนี้จับมือกับมือกฎหมาย และอดีต สส.ผู้คร่ำหวอดทางการเมือง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ มาช่วยเตรียมการล่าชื่อสมาชิกรัฐสภาและประชาชน เพื่อส่งศาลฎีกาตรวจสอบการทำงาน ป.ป.ช. และเตรียมจัดกิจกรรมค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาล 3 วัน

คปท.-นิพิฏฐ์ ล่าชื่อยื่นศาลฏีกา ลั่น จัดม็อบค้างทำเนียบฯ 3 วัน
โดยสาเหตุที่ต้องให้ศาลฎีกาตรวจสอบ ป.ป.ช. นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า เนื่องจากประชาชนไม่สามารถฟ้องเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง จะต้องทำผ่าน ป.ป.ช. เมื่อยื่นเรื่องไปแล้ว ป.ป.ช. นิ่งเฉย จึงต้องตรวจสอบว่ามีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

ทั้งนี้ กรณี นายทักษิณ รักษาตัวนอกเรือนจำเกิน 120 วัน กระบวนการยุติธรรมของไทย ยังไม่มีคำตอบให้สังคมไทยว่า นายทักษิณป่วยร้ายแรงแค่ไหน โดยทาง คปท. เคยยื่น ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบในเรื่องนายทักษิณ แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้า จึงจะใช้แนวทางยื่นหนังสือไปยังสมาชิกรัฐสภา ให้ใช้เสียง 1 ใน 5 หรือ 150 คน เสนอประธานรัฐสภา เพื่อให้ประธานรัฐสภายื่นเรื่องต่อประธานศาลฎีกา ให้ตั้งคณะทำงานการไต่สวนของ ป.ป.ช. แต่ถ้าระบบรัฐสภายังไม่สามารถเข้าชื่อได้ถึง 150 คน ก็จะเชิญให้ประชาชนร่วมลงชื่อให้ครบ 20,000 รายชื่อ เพื่อยื่นต่อประธานรัฐสภา ให้ยื่นต่อประธานศาลฎีกาอีกรอบ ซึ่งกระบวนการล่ารายชื่อทำไปพร้อมกันได้ นอกจากนี้ คปท. จะจัดกิจกรรมที่ทำเนียบรัฐบาล บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ วันที่ 12-14 มกราคม 67 โดยจะเป็นการจัดกิจกรรมแบบค้างคืน

นายกฯ มั่นใจ กรมราชทัณฑ์ทำถูกต้องปม ทักษิณ
แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเผือกร้อนในมือรัฐบาล โดยเฉพาะ นายเศรษฐา ในฐานะนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ถามว่า ขณะนี้ครบ 120 วันแล้ว ทางกระทรวงยุติธรรมได้มีการรายงานมาหรือไม่ ว่านายทักษิณจะได้รับวีซาอยู่ต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ ฟังปุ๊บ ท่านนายกฯ ถึงกับยิ้มแล้ว บอกว่า ไม่แน่ใจว่าใช้คำว่าต่อวีซาถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ท่านยืนยัน เชื่อมั่นว่ากระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ รวมถึงโรงพยาบาลตำรวจได้ทำถูกต้องตามกฎหมาย