ห้องข่าวภาคเที่ยง - หลังน้ำป่าไหลหลาก และระดับน้ำท่วมพื้นราบในจังหวัดนราธิวาส เริ่มคลี่คลาย ปรากฏว่า พบท่อนซุง และไม้ป่า ถูกน้ำป่าพัดไหลหลากลงมาตามพื้นที่เชิงเขาเมาะแต ของแนวเทือกเขาสันกาลาคีรี จำนวนมาก
ทีมข่าว 7HD ภาคใต้ ที่เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบฝายบ้านบระเอ็ง ตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นอีกพื้นที่ที่ชาวบ้านในหมู่บ้าน ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม
โดยขณะนี้เจ้าของบ้านหลายหลัง ทำความสะอาดบ้าน ล้างคราบดินโคลนที่ไหลหลากจากภูเขาเมาะแต ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป ลงมาตามลำธาร ขณะเดียวกันก็มีท่อนซุง รากไม้ขนาดใหญ่ ที่ถูกน้ำป่าพัดพามาชนบ้านของเจ้าของบ้านจนพัง ซึ่งชาวบ้านก็ยืนยันว่า ซุงและรากไม้เหล่านี้ ถูกพัดลงมาจากเขาเมาะแต ที่มีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า
นอกจากนี้ ทีมข่าวเดินทางไปเชิงเขาเมาะแต ซึ่งมีฝายบ้านบระเอ็ง ปรากฏเมื่อไปถึง กลับไม่พบฝายแล้ว เนื่องจากฝายถูกน้ำป่าพัดจนฝายแตก และยังแบ่งสายน้ำออกเป็น 2 สาย แต่ที่น่าตกใจคือ พบท่อนซุง ทั้งต้นตะเคียนชันตาแมว ต้นยวนผึ้ง ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม รวมทั้งไม้ยืนต้น ถูกน้ำป่าพัดลงมาหลายร้อยท่อน และนอกจากบริเวณฝายแล้ว น้ำป่าก็ยังพัดท่อนซุงลงไปตามลำน้ำจนถึงในหมู่บ้าน
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังไปตรวจสอบที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ ซึ่งอยู่ในแนวเขาเมาะแต ปรากฏว่าหลังเกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากลงจากเขาเมาะแต ทำให้มีท่อนซุงถูกน้ำป่าพัดไหลหลากลงมาตามกระแสน้ำจำนวนมาก
โดยส่วนใหญ่เป็นต้นไม้ที่ถูกไม้ซุงไหลหลากตามกระแสน้ำป่า ไหลกระแทกจนต้นไม้ยืนต้นถูกถอนรากถอนโคน ลงมาตามกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ซึ่งบางท่อนมีร่องรอยการใช้เลื่อยยนต์ตัดหัวตัดท้าย และบางต้นก็เป็นไม้หวงห้าม ขณะเดียวกันกระแสน้ำก็ยังเปลี่ยนทิศทางการไหลของน้ำตก พร้อมกับพัดทรายและหินลงมาขวางตามลำน้ำจนถึงในหมู่บ้าน
